นายกฯ เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุง เพิ่มพื้นที่สีเขียว พัฒนาคูคลอง สายไฟลงดิน

โฆษกรัฐบาลเผย "นายกฯ" เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ 11 สายรถไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่สีเขียว "สวนเบญจกิติ” พัฒนา 50 คูคลอง จัดระเบียบสายสื่อสาร นำสายไฟฟ้าลงดิน และให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร เร่งนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ยกระดับชีวิตคนกรุงเทพฯ สร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาคุณภาพน้ำ จัดระเบียบสายสื่อสาร นำสายไฟฟ้าลงดิน และให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงที่อยู่อาศัยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยรัฐบาลทำมาอย่างต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรมและประโยชน์ต่อประชาชนในหลายด้านแล้ว เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาคุณภาพน้ำ 50 เขต 50 คลองใส ที่ดำเนินการในปี 2564 อาทิ ขุดลอกคลอง ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลอง พัฒนาทางเดิน ปลูกต้นไม้แนวริมคลอง ยังให้เร่งแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบ โดยอาศัยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการการจัดตั้งเครือข่ายด้านการจัดการน้ำเสียภายในชุมชน รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงคลองให้สามารถช่วยระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร บรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในบางพื้นที่นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งจัดระเบียบสายสื่อสารต่าง ๆ รวมทั้งสายไฟฟ้าลงดิน โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาได้นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้วเสร็จสะสมระยะทางรวม 55.7 กิโลเมตร เช่น โครงการสีลม โครงการจิตรลดา โครงการปทุมวัน รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยวางเป้าหมายที่จะมีการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดภายในปี 2568 ระยะทางสะสม 215.6 กิโลเมตร ขณะเดียวกันก็ได้มีการจัดระเบียบสายสารสื่อสาร แล้วเสร็จระยะทาง 100 กิโลเมตร และมีแผนดำเนินการเพิ่มอีกต่อเนื่องในปี 2565 -2567 รวม 1,400 กิโลเมตร เพื่อความเป็นระเบียบ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมทั้งยังติดตามความก้าวหน้าในการจัดสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” ซึ่งมีเนื้อที่รวมประมาณ 450 ไร่ เพื่อให้เป็นสวนป่ากลางกรุง เป็นแหล่งพักผ่อน รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์สำหรับนักเรียนนักศึกษา ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2565 เพื่อจะร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และจะได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์อย่างเป็นทางการต่อไปนายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเดินหน้าเชื่อมโยงระบบขนส่งครบวงจรทั้งทางบก ราง และน้ำ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียม สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย แก้ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่อย่างยั่งยืน โดยมีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว 11 เส้นทาง 211.94 กม. 141 สถานี นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ PPP จำนวน 6 โครงการ 71.49 กม. 38 สถานี เช่น ตลิ่งชัน – ศิริราช (สีแดงอ่อน) วัชรพล – ทองหล่อ (สีเทา) เป็นต้น รวมไปถึงรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมโครงการ จำนวน 9 โครงการ 120.78 กม. 81 สถานี เช่น บางแค – พุทธมณฑลสาย 4 (สีน้ำเงิน) หัวลำโพง – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย (สีแดงเข้ม) แคราย – ลำสาลี (บึงกุ่ม) (สีน้ำตาล) เป็นต้น และล่าสุดนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานในการมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล ภายใต้โครงการบ้านเคหะสุขเกษม เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อมุ่งช่วยเหลือประชาชน เน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง เข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นลดความเหลื่อมล้ำในสังคม"นอกจากการใส่ใจพัฒนากรุงเทพ ฯ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองแล้ว นายกฯ ยังได้ติดตามการสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมากในแต่ละวัน โดยให้เร่งค้นหาสาเหตุและปัจจัยเสี่ยง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมการแพร่ระบาดโควิด -19 ต่อไป" นายธนกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา

‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน

'อิ๊งค์' ยิ้มร่ารับฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' แซวตัวเอง 'แพทองแพด' แฮปปี้ไม่เกลียดใคร

'นายกฯอิ๊งค์' ยิ้มแย้ม ไม่โกรธฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ขอมองมุมดี พ่อมีประสบการณ์เพียบช่วยหนุน หยอกสื่อกลับ 'แพทองแพด' ไม่ใช่แพทองโพย บอกไม่ค่อยเกลียดใครมันเหนื่อย แฮปปี้เข้าไว้

‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ

นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2