'ก.แรงงาน' ขานรับนายกฯ จับมือเอกชน ส่งเสริมจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 65

กระทรวงแรงงาน ขานรับนายกฯ จับมือสถานประกอบการภาคเอกชน ดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 65 สร้างโอกาสมีงานทำให้คนพิการ สร้างรายได้กว่า 160 ล้าน

1 มี.ค.2565 - ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน นายจ้างภาคเอกชนและผู้พิการที่ร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประจำปี 2565 เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน เพื่อแสดงความขอบคุณต่อโครงการฯที่ส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำและสร้างความเสมอภาคทางสังคม โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน และคณะเข้าร่วม

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศอย่าง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งกระทรวงแรงงานพร้อมเต็มที่ ที่จะสนองต่อนโยบายรัฐบาล ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ขจัดความเหลื่อมล้ำ โดยเน้นสร้างโอกาสแก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง และทำประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน ตลอดจนสังคมได้ ซึ่งโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 65 ถือเป็นอีก 1 โครงการของกระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ที่สร้างโอกาสให้คนพิการมีงานทำ และได้รับรายได้จากการทำงานโดยตรง ซึ่งเดิมกำหนดเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมประเภทจ้างเหมาบริการไว้ จำนวน 1,000 คน แต่มีการจ้างงานคนพิการตามโครงการฯ ถึง 1,450 คน เพิ่มจากเป้าหมายร้อยละ 45 ก่อให้เกิดรายได้แก่คนพิการ 165,655,250 บาทต่อปี โดยจากนี้ได้เตรียมขยายการมีงานทำให้คนพิการฯ มีงานและรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 20% ภายใน 4 ปี

“ขอขอบคุณความร่วมมือของสถานประกอบการภาคเอกชน จำนวน 187 แห่ง อาทิ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ บมจ.แคล - คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สาขาเพชรบุรีและสาขาสมุทรสาคร กลุ่มบริษัท อเด็กโก้ ประเทศไทย และบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เปลี่ยนจากการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 มาให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะพลังของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น ที่เปิดรับแนวทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นบันไดขั้นหนึ่งสู่การขจัดความเหลื่อมล้ำของสังคม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้ดำเนินการให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งจะช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป โดยมีผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 1,450 คน ส่วนใหญ่ เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย การได้ยินหรือสื่อความหมาย ทางสติปัญญา ทางการมองเห็น และทางการเรียนรู้ ตามลำดับ ทำงานในตำแหน่งพนักงานธุรการทั่วไป พนักงานทำความสะอาด คนสวน เป็นต้น โดยหน่วยบริการสาธารณะ 3 อันดับแรกที่มีความพร้อมรับคนพิการเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล และโรงเรียน ตามลำดับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย

รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย