'อนุชา' เผย 2 พ.ค.นี้ ขายหวย 80 บาท 2.5 ล้านใบ พร้อมเผยแผนระยะยาวแก้ราคาแพง

28 ก.พ.2565 - ที่ห้องประชุมสำนักงานก.พ. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวันนี้ รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก สมัครเข้าร่วมโครงการ "สลาก80" เพื่อเป็นจุดที่ประชาชนจะสามารถซื้อสลากได้ในราคา80บาท รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ หลังจากปิดรับสมัคร ตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน4,790 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะดำเนินการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565

ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย โดยเป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ ปี 2565 จำนวน 903,492 ราย และเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิมปี2558 จำนวน 136,376 ราย และสำนักงานฯ ได้มีประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันความถูกต้องข้อมูลตนเอง เมื่อวันที่ 7 – 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่าง เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

สำหรับ แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติ คัดกรอง หาผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 ซึ่งยังสามารถทำรายการได้นั้น

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้ เตรียมจัดทำคิวอาร์โค้ด ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อสลากสแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากด้วยตนเองจริง นอกจากนี้ จะตรวจสอบจากรายการซื้อ-ขายสลากผ่านระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ในขณะเดียวกันสำนักงานได้เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับ หน่วยงานภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ทำการสำรวจและตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ไปพร้อมๆ กันกับการให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ยืนยันตัวตนกับหน่วยงานที่สำนักงานฯ กำหนด

ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย และการเพิ่มมาตรการ หลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับสลากไปจำหน่าย เพื่อให้เกิดผลชัดเจนในการปฏิบัติ นั้น

สำนักงานสลากฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ได้มีการกำหนดมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายนิติบุคคล ประเภท สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการตรวจพบบนแพลตฟอร์มของกลุ่มบุคคลที่จำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการตรวจสอบ เป็น 4 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 – งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 2 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 – งวดวันที่ 1 เมษายน 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 เมษายน 2565 – งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 รวม 4 งวด

ครั้งที่ 4 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 – งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 รวม 4 งวด

หากตรวจพบการกระทำความผิด ครั้งที่ 1 สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ตรวจสอบ ควบคุมสมาชิก หากตรวจพบการกระทำความผิดซ้ำในครั้งต่อไป สมาคม องค์กรมูลนิธิ จะต้องถูกปรับลดจำนวนสลากที่สำนักงานฯ จัดสรรให้ โดยหากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 25 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 3 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 50 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 4 จะปรับลดสลากลงร้อยละ 100 ของจำนวนสลากที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นว่า ควรพิจารณา บทลงโทษให้มีความเข้มข้น เด็ดขาดมากกว่านี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการค้าสลากเกินราคาได้ โดยในระยะสั้นคือการคัดกรองคุณสมบัติผู้ค้าตามโครงการ "สลาก80" ที่จะมีการจำหน่ายใน 1,000 จุด ทั่วประเทศ

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น คือเราจะทำให้สลากไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ หรือจากผู้ค้าไปถึงผู้ซื้อก็คือประชาชนทันที โดยไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งระบบจะการยืนยันตัวบุคคลผู้ซื้อและผู้ซื้อคนดังกล่าว จะต้องเป็นผู้มารับรางวัลเท่านั้น คนอื่นมารับไม่ได้

โดยจะเป็นการซื้อขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งผู้ค้าทุกคนต้องปรับตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายอยู่โทรศัพท์มือถือ และตอนนี้เราทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้กัน100% อยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะไม่มีการพิมพ์สลากฯที่เป็นกระดาษ และผู้ค้าไม่ต้องมีแผงขาย แต่ยอมรับว่าส่วนนี้ต้องใช้เวลาที่ต้องวางแผนและทำอย่างละเอียดแต่ถือว่าเป็นแผนที่ต้องไปถึงจุดนั้นให้ได้

"ไม่ต้องห่วง เรากำลังดำเนินการแก้ปัญหาระยะสั้น และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ในการขายสลากเกินราคา เราต้องเอาชนะ คนที่หาปะะโยชน์จากประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งเราไม่นิ่งนอนใจ เราทำงานอย่างเต็มที่ทุกคน ไม่มีอะไรเคลือบแคลง และแอบแฝงแม้แต่นิดเดียว เพื่อให้ราคาสลากเหมาะสม" นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอ๋ เชิญยิ้ม' ถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลอื่น ๆ รวม 26 ใบ

ปังไม่ไหวสำหรับนักแสดงตลกชื่อดัง เอ๋ เชิญยิ้ม หลังเจ้าตัวได้ถูกรางวัลใหญ่ จากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ด้วยการถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ พ่วงรางวัลอื่น ๆ รวม 26 รางวัล งานนี้รับเงินก้อนโตเลยทีเดียว

ราชกิจจาฯ ประกาศ ประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก โดยมีรายละเอียดดังนี้