10 ปีพอดี! ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ‘จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ’ สมัยนั่งรมว.มหาดไทย รับประโยชน์เกิน 3 พัน เผยอัยการสูงสุดสั่งฟ้องแล้ว คดียิ่งลักษณ์ย้ายถวิล – กิตติรัตน์ข้าวบูล็อก
28 ก.พ. 2565 – ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายภูเทพ ทวีโชติธากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลงานคดีทุจริตไตรมาสแรกปี 2565
นายนิวัติไชย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย กับพวก กรณีรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อันไม่ควรได้ตามกฎหมาย โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อปี 55 นายจารุพงศ์ กับพวก เดินทางไป-กลับ กทม.-ปักกิ่ง ประเทศจีน ด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ตกราคาที่นั่งละ 39,000 บาท ต่อมาปี 56 เดินทางไป-กลับ กทม.-กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ด้วยสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ตกราคาที่นั่งละ 20,000 บาทเศษ รวมมูลค่าที่ได้รับไปเกือบ 6 หมื่นบาท
จากการไต่สวนพบว่า นายจารุพงศ์กับพวก มีการเรียกเก็บค่าตั๋วจากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด หรือ อีสต์วอเตอร์ ทั้งที่นายจารุพงศ์ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือความสัมพันธ์โดยตรง หรือควบคุมดูแลบริษัทดังกล่าว เนื่องจากบริษัทแห่งนี้มิใช่รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ แม้ว่านายจารุพงศ์เป็น รมว.มหาดไทย โดยตามกฎหมายจะรักษาการประธานบอร์ดการประปา ขณะที่อีสต์วอเตอร์มีการประปาเข้าไปถือหุ้นก็ตาม แต่ถือแค่ 40% เท่านั้น ดังนั้นทำให้การประปาไม่เกี่ยวกับอีสต์วอเตอร์ และนายจารุพงศ์ไม่สามารถเรียกเงินดังกล่าวได้ ดังนั้น จึงรับฟังได้ว่า นายจารุพงศ์ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3 พันบาท ตามระเบียบหรือประกาศของ ป.ป.ช. มีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 103 มีโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับ 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยความคืบหน้าขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการต่อไป
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ยังมีอีกอย่างน้อย 2 คดีที่มีความคืบหน้า ภายหลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ได้แก่ 1.กรณีการชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ มีการตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ระหว่างฝ่ายอัยการ และฝ่าย ป.ป.ช. ขณะนี้ อสส. มีความเห็นควรสั่งฟ้องแล้ว และ 2.กรณีการชี้มูลนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก คดีปรับปรุงข้าวส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เอื้อประบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือ คดีข้าวบูล็อค มีการตั้งคณะทำงานร่วมฯพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์เสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้ อสส.มีความเห็นควรสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช.แจงปมอดีตเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เรียกรับเงิน
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งพนักงานไต่สวน ระดับสูง
'บิ๊กต่อ' รวย 209 ล้าน เลิกซุกบ้านอังกฤษ โชว์ 2 หลัง 103 ล. ไม่เจอเงินกู้
ป.ป.ช. เปิดเซฟ 'บิ๊กต่อ' พ้น ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้านบาท มีบ้านพร้อมที่ดินที่อังกฤษ 2 หลัง มูลค่า 103 ล้าน ไม่พบเงินกู้ยืม 20 ล.
'บิ๊กต่าย' ยันไม่ได้ลอยตัว ปม ป.ป.ช. รับไต่สวนจนท.รัฐ เอื้อทักษิณนอนชั้น 14 พร้อมทำตามกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวม12 ราย
'เด็จพี่' บอกอย่าให้ราคาก๊วนกดดัน ป.ป.ช.สอบป่วยทิพย์ชั้น 14
พร้อมพงศ์ชี้ อย่ากดดัน ป.ป.ช. กระบวนการยุติธรรมทางอาญาต้องอิสระ เลิกดูหมิ่นดูแคลน!
อดีตบิ๊กข่าวกรองฝาก ป.ป.ช.เร่งปมป่วยทิพย์ชั้น 14 บอกเป็นการคอร์รัปชันที่รุนแรงที่สุด
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'ทวี' เผยเงื่อนไข 'คุมขังนอกเรือนจำ' ต้องไม่หลบหนี-ได้รับอภิสิทธิ์อย่างอื่น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับฟังความเห็นระเบียบว่าด้วยการคุมขังนอกเรือนจำที่แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ต้องดูว่าหลังจากนี้มีคนเห็นด้วยหรือเ