21 ก.พ.2565 - พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ฝ่ายการเมืองได้นำเรื่องการดำเนินงานของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.) เข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เมื่อ 18 ก.พ.65 โดยระบุถึงการร่วมผลิตรายการข่าวของบริษัทสื่อภายนอก กังวลว่าอาจส่งผลต่อการบริหารจัดการและความเป็นกลางของทางสถานีนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ททบ. เป็นกิจการด้านสื่อสารมวลชน ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพบก มีสถานะเป็นผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ตาม พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการบริการสาธารณะประเภทที่ 2 ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยสาธารณะ สถานีดำเนินการภายใต้อุดมการณ์ของทางสถานีคือ "นำคุณค่าสู่สังคมไทย" ตลอดมา โดยไม่ได้รับการสนับสนุนงปประมาณจากทางราชการ และยังมีผู้จัดรายการและพันธมิตร ร่วมผลิตเนื้อหาสาระอย่างหลากหลาย ตามวิถีแห่งการดำเนินกิจการด้านสื่อสารมวลชน
ปัจจุบัน ททบ.บริหารจัดการสถานีด้วยตนเอง สำหรับการร่วมมือกับบริษัท กาแล็กซี มัลติมีเดียคอร์เปอเรชั่น จำกัด ในปี 2565 นี้ ถือเป็นเรื่องปกติในการนำพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพด้านการสื่อสารมาร่วมผลิตรายการข่าวเหมือนการบริหารจัดการของสถานีโทรทัศน์ทั่วไปและบริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเข้ามาในการบริหารสถานี โดยได้มีการกำหนดการจัดแบ่งรายได้และการประกันรายได้ขั้นต่ำ 65 ล้านบาทต่อปี หากมีรายได้เพิ่มขึ้น ททบ. ก็จะได้รับมากขึ้นตามสัดส่วน
อย่างไรก็ตามข้อตกลงเรื่องการจัดสรรรายได้ เป็นพื้นฐานค่าตอบแทนทั่วไปของการบริหารงานด้านสื่อสารมวลชน แต่สาระสำคัญที่สื่อในเครือของกองทัพบกยึดมั่นตามนโยบายคือ การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กสทช. สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ทันสมัยมีประสิทธิภาพ เพื่อความรักความสามัคคี สนองตอบภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศ สร้างจิตสำนึก อุดมการณ์รักชาติรักแผ่นดินและให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลรอบด้าน ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ สังคม เป็นช่องทางสื่อสารให้ประชาชนรู้เท่าทันในทุกเหตุการณ์ เพื่อการปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันปรากฏข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนความจริงผ่านช่องทางต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กอ้วน' ยันชายแดนภาคเหนือไร้สู้รบ กลุ่มว้าแดงไม่ได้รุกล้ำ อย่าพูดเรื่องเสียดินแดน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และรมว. กลาโหมกล่าวถึงสถานการณ์ การเผชิญหน้าระหว่างทหารว้าและทหารไทย ในพื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือ ว่า ก็ไม่มีอะไรสถานการณ์สงบปกติ โดยตนเองได้สอบถามไปยังพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์
ทภ.3 สยบข่าวทหารไทยเผชิญหน้าว้าแดง ยันประชาชนใช้ชีวิตปกติ สัมพันธ์ชายแดนยังดี
พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่ได้ปรากฏข่าวสารข้อมูล ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองทัพภาคที่ 3 ขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ดังนี้
โฆษก ทบ. แจงปมเจ้ากรมยุทธฯทำร้ายทหาร รอสอบพยานเพิ่ม ชี้บทลงโทษด้านวินัย
พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้การสอบพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคำสั่งให้เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก
ผบ.ทบ. ร่วมพิธีปิดทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธี กลุ่มประเทศอาเซียน ทหารหญิงไทยคว้ารางวัล
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทาง ร่วมในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 32 (The 32nd ASEAN Armies Rifle Meet - AARM) หรือ AARM 2024
โฆษก ทบ. เผยคำสั่งย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกาย
พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการที่กองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ในสังกัดกรมยุทธศึกษา
ผบ.ทบ. เซ็น แต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ 461 นาย
การแจกจ่ายคำสั่งกองทัพบกที่ 442/ 2567 โดยมี พ.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนาม เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 461 นาย