กรมชลฯ เตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูง ช่วง 14 – 18 ก.พ. ลดผลกระทบในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

กรมชลประทาน วางมาตรการล่วงหน้ารับมือน้ำทะเลหนุนสูง ช่วง 14 – 18 กุมภาพันธ์ 2565 สอดคล้องกับประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) พร้อมเตรียมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้งอย่างรัดกุม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

15 ก.พ. 2565 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงฤดูแล้งของทุกปี โดยกรมชลประทานได้พิจารณาแนวทางเพื่อรับมือและกำหนดมาตรการควบคุมความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยการเพิ่มการระบายจากเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 – 5 กุมภาพันธ์ 2565 ในอัตราเฉลี่ยวันละ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมกับรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราเฉลี่ย 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

สำหรับที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำ ในอัตราเฉลี่ยวันละ 5.18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะทยอยปรับลดการระบายลงเหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 4.32 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะเดียวกันจะควบคุมระดับเหนือเขื่อนพระรามหก ให้อยู่ในเกณฑ์ และปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำอยู่ในอัตราเฉลี่ย 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นจะทยอยปรับลดการระบายลงเหลืออัตราเฉลี่ย 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในลำดับต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง-เจ้าพระยา โดยการระบายน้ำผ่านทาง ประตูระบายน้ำ (ปตร.) สิงหนาท 2 ในอัตราไม่ต่ำกว่า 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมควบคุมปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระรามหก และปตร.สิงหนาท 2 รวมกันที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 100 – 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

จากแผนการระบายน้ำและบริหารจัดการน้ำข้างต้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำทั้งหมดไหลมาบรรจบเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ช่วงวันที่ 14 – 18 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ตามการคาดการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและความเค็มรุกตัวบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา

ปัจจุบัน แม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจวัดค่าความเค็มที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี อยู่ที่ 0.22 กรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยที่ผ่านมากรมชลประทานมีมาตรการบริหารจัดการน้ำในการบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างรัดกุม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเค็มรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำและอาคารชลประทานให้สอดคล้องกับช่วงการหนุนของน้ำทะเลอย่างเหมาะสมตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมชลประทานคุมเข้มบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูมรสุมภาคใต้

นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 16 เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนรับมือในพื้นที่ภาคใต้ใกล้เข้าสู่ฤดูฝน

ครม.อนุมัติงบ 9,187 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายใต้กรอบวงเงิน 9,187.4462 ล้านบาท

สั่งกรมชลฯทำแผนเร่งด่วน 'บริหารจัดการน้ำ' จี้เกาะติดรายอำเภอ

นายกฯ รุดกรมชลประทาน ถกบริหารจัดการน้ำ สั่งทำแผนแก้ปัญหาเร่งด่วนใน 3 ปี พร้อมวางโครงการระยะยาว แก้ไขปัญหาภัยพิบัติมีประสิทธิภาพ พร้อมฝากอนุทิน ดูแลขุดลอกแม่น้ำโก-ลก

สิ้นสุดฤดูแล้ง 30 เม.ย. รองโฆษกฯ เผยสถานการณ์น้ำภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี

​'คารม' เผยสถานการณ์น้ำภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำมีจำนวน 55% ของความจุเก็บกัก หรือปริมาณ 45,940 ล้าน ลบ.ม ระบุประเทศไทยสิ้นสุดฤดูแล้ง 30 เม.ย นี้