คณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพ เดินทางถึง 'เปรู' วางแผนเผยแผ่พระศาสนาในแผ่นดินอเมริกาใต้

31 ม.ค.2565 - เวลา 10.30 น. นายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิม่า ประเทศ สาธารณรัฐเปรู พร้อมด้วยภริยา ตลอดจน ข้าราชการและศรัทธาญาติโยมพี่น้องชาวไทย ให้การต้อนรับ คณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพ นำคณะโดยพระสุธรรม ฐิตธัมโม ,พระมหาฐาปกรณ์ โฆสธัมโม และพระศุภชัย สุภาจาโร ในโอกาสที่เดินจาริกธรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาในโซนกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต

เมื่อมาถึง ท่านเอกอัครราชทูต กราบนมัสการ และแนะนำ ญาติโยมพี่น้องชายไทยให้ทราบว่ามี จำนวน 7 ครอบครัว มีครอบครัวชาวเปรู ที่เป็นเจ้าของค่ายมวย มาร่วมบุญด้วย

จากนั้น นายสรยุทธ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดี เพราะที่นี่เปรูไม่มีวัดไทยแม้แต่วัดเดียว เป็นโอกาสที่ได้เห็นพระ ได้เห็นผ้าเหลือง นับว่าเป็นบุญ นำความร่มเย็นมาสู่ไทยคอมมูนิตี้ ชุมชนคนไทยที่นี้ แม้นหลายๆคน คนเปรูเอง ที่นิยมชมชอบวัฒนธรรมไทย นิยมชมชอบมวยไทย อาหารไทย การท่องเที่ยวไทย ไม่ว่าผมจะไปไหนในที่นี้

คนจะพูดถึง 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ การท่องเที่ยวไทย เรื่องที่ 2 คืออาหารไทย และอีกอันหนึ่งที่ผมเจอ ก็คือ เค้าจะชอบพูดเรื่อง ศาสนาพุทธ ปรากฏว่าในบรรดาคณะทูตทั้งหลาย จะพูดเรื่องนี้เยอะ เพราะทูตทั้งหลาย เพราะว่าเรามาจากประเทศไทย เราต้องพยายามตอบคำถามชาวพุทธให้ได้ บ้างก็ถามว่า ชาตินี้ชาติหน้ามีไหม หากเป็นผู้ชายเกิดชาติหน้า เป็นผู้หญิงได้ไหม ชาติหน้าจะเกิดเป็นสัตว์เป็นมด ได้ไหม เป็นหนู ได้ไหม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมว่า น่าเป็นพื้นฐานที่พุทธศาสนิกชน ควรมีความรู้

พระสุธรรมตอบว่า เป็นคำถามเหมือนที่พราหมณ์ ถามพระพุทธเจ้า สมัยก่อนว่า ชาติหน้ามีจริงไหม …?

ผมไปโบลิเวีย ทางรัฐบาลโบลิเวีย ส่งเจ้าหน้าที่มาประจำผม ชื่อน้องมาเรีย ความรู้สึกของผม เหมือนเขาเป็นลูกสาวผม มีความรู้สึกผูกพันและเอ็นดูมาก เขาถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมาย ผมยังคิดว่า ชาติที่แล้วเค้าอาจจะเป็นลูกเรา มาก่อน

จากนั้นก็รายงาน ภารกิจการปฏิบัติราชการให้ทราบว่า อยู่ฮ่องกง 4 ปี สาธารณะเชค 4 ปี เซี่ยงไฮ้ 5 ปี ไปอยู่ สวิตเซอร์แลนด์ 3 ปี กลับไปไทยก่อน แล้วก็มาที่นี่ เปรูอีก 2 ปี

เวลาต่อมา พระสุธรรมได้พูดถึงการเดินธุดงค์เพื่อสันติภาพของโลก ว่า แรกเริ่มเดิมที่ ได้เริ่มออกเดิน จากวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ออกไปยังด่านมุกดาหาร แล้วก็เดินข้ามประเทศลาว เข้าประเทศเวียดนาม สุดแผนดินที่เมืองดองฮ่า และบินมาที่ ลอสแอลเจลิส เดินจาก ซานตามอนิกา ไปถึงนิวยอร์ก และก็กลับมาเดินจาก ไทย ไปพม่า อินเดีย ปากีสถาน และพอโควิดเข้าอิหร่าน ก็บินมาเดินเพื่อสันติภาพ ที่ประเทศตุรกี เดินได้ครึ่งทางโควิดเข้า จึงกลับประเทศไทย

ปีนี้วางแผนว่าจะเดินต่อ (แต่โควิดเข้ามาเสียก่อน) ให้ถึง ถนนเลอ เดอะ ไซแอ้ม ที่เจ้าพระยาโกษาปาน มาส่งพระราชสาสน์ให้กลับพระเจ้าหลุยส์ ที่เมืองแบรสต์ ประเทศฝรั่งเศส ก็ต้องหยุดพักไปเสียก่อน จึงเปลี่ยนแผนมาทางอเมริกาใต้ตามที่ทราบกัน

พระสุธรรม กล่าวว่า ในอนาคต จะไปโบลิเวีย นายสรยุทธ สอบถามว่า จะเดินทางไปโบลิเวียไปช่วงไหน พระสุธรรม ตอบว่าไปลาปาส ในคืน วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ท่านเอกอัครราชทูต ตอบว่า ลาปาส เป็นเมืองที่สูงมาก ต้องปรับตัวเรื่องระดับความสูง เพราะเดินจะเหนื่อยง่าย ต้องปรับตัว พระสุธรรมตอบว่า วันก่อนก็เดินที่เมืองกุสโก น่าจะสูงพอๆกัน เพราะวันก่อนเดินที่เทือกเขาแอนดีส ก็ที่ระดับความ 4,600 เมตร หายใจลำบาก ท่านเอกอัครราชทูต ตอบว่า จะเหนื่อยง่าย พระสุธรรมตอบว่า ใช่ๆ

เราก็ได้รายงานครูบาอาจารย์พระผู้ใหญ่ว่า เราจะเยี่ยมเยียนพี่น้องในอเมริกาใต้ ในเมืองที่มีคนไทยมากหน่อยอย่างเม็กซิโก ก็จะมาในเทศกาลสำคัญๆ ก็คิดว่าสงกรานต์ปีนี้ รวมทั้งในโอกาสต่างๆ ก็จะมาเยียมในประเทศต่างๆ ก็จะมาโปรดเยี่ยม ให้ทั่ว เพราะเราพอมีคณะพระสงฆ์หมุนเวียนกันมา

ได้เวลาเห็นสมควร แล้ว ก็เป็นภาคพิธีกรรมทางศาสนาโดย พระมหาฐาปกรณ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
พณฯท่านเอกอัครราชทูต ประธาน ฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย และเป็นผู้กล่าวนำ กราบพระรัตนตรัยและสมาทานศีล ๕

จากนั้นพระสงฆ์ สวดเจริญพระพุทธมนต์ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วเสร็จ

ท่านเอกอัคคราชทูต ประธานฝ่ายฆราวาส นำกล่าวคำถวายภัตตาหาร

พระสุธรรมเป็นตัวแทนพระสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา และกล่าวว่านับว่าเป็นโอกาสดีที่ได้มาพบปะพูดคุยกับพี่น้อง ชาวไทยที่ประเทศเปรู พุทธองค์ได้ทรงสอนว่า การได้เห็นสมณะบ้าง คือ นักบวชพระภิกษุสงฆ์ นี้แหละ การได้ฟังธรรมบ้าง ก็เป็นมงคลสูงสุด เอตัมมังคะละมุตตะมัง เป็นโอกาสดี ที่พี่น้องได้มาเห็นได้มาฟังธรรมของพระพุทธองค์ คำถามที่ คนต่างประเทศ มักถามอยู่บ่อยๆ ว่า พระพุทธศาสนาสอนเรื่องอะไร ที่พวกเราเข้าใจกันทั่วๆไป ก็คือ สอนเรื่อง อริยสัจ 4 สอนเรื่องทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สอนเรื่องว่า ทุกข์…นั้นเป็นอย่างไร สาเหตุแห่งทุกข์นั้นมาจากไหน เราควรจะแก้ไขอย่างไร สุดท้ายเมื่อ เราแก้ไขแล้วผลของนิโรธ ผลของการดับทุกข์นั้นเป็นอย่างไร นี้คือ คำสอนหลักที่พระพุทธองค์ทรงสอน ทรงสอนเฉพาะ ใบไม้ในกำมือเดียว ในขณะที่ความรู้นั้น ความรู้นั้น มีใบไม้ทั้งป่า สอนที่มีประโยชน์ ต่อการพ้นทุกข์ ที่มีประโยชน์ต่อการตรัสรู้

และได้กล่าวยกพระสูตรจูฬมาลุกยสูตร พราหมณ์ถามว่า คนเราตายและเกิดหรือไหม พระพุทธองค์ทรงย้อนถามว่า ถ้าพราหมณ์ถูกลูกศรยิง พราหมณ์ อยากรู้ไหมว่าคันธนูทำจากอะไร พราหมณ์อยากรู้ไหมว่า ลูกศรทำจากอะไร พราหมณ์อยากรู้ไหมว่าเอ็นทำจากอะไร

พราหมณ์อยากรู้ก่อนที่หมอจะผ่าตัด…หรือไม่ ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้เราไม่เคยสอน…..เพราะไม่มีประโยชน์

ฉันใดก็ฉันนั้น เพราะเราตถาคตสอนเรื่องที่มีประโยชน์ต่อการพ้นทุกข์ เรื่องที่มีประโยชน์ต่อการตรัสรู้ เรื่องที่มีประโยชน์ต่อพระนิพพาน เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นที่ไม่มีประโยชน์เราไม่ทรงพยากรณ์ เราไม่ตอบ ซึ่งข้อนี้คือ ข้อแตกต่างระหว่างพระพุทธศาสนากับศาสนาอื่น ศาสนาอื่นทรงบอกว่าพระเจ้าสร้างโลก มาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พระพุทธเจ้าบอกว่า ทรงไม่ตอบ เพราะมันไม่มีประโยชน์ เหมือนโยมเถียงกันทั้งโลกว่า ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่ มันจะได้ประโยชน์อะไรเล่า ก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้นำไปพิจารณา

ท้ายนี้ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยจงอำนวยพรให้ท่านทั้งหลาย จงประสบแด่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ด้วยอายุ มีอายุยืน วรรณะ มีวรรณะผ่องใส สุขะ มีความสุขความเจริญ พละ มีพละกำลังแข็งแรง ธนสารสมบัติ ตั้งปรารถนาสิ่งใดอันเป็นการชอบประกอบด้วยธรรมขอให้เพียรพยายาม และพลั้นสำเร็จสมดังความมุ่งหมายทุกประการเทอญ

เวลาต่อมา พระสงฆ์ ให้พร และญาติโยมร่วมกัน ประเคนและถวายภัตตาหาร โดยฯพณฯ ท่านเอกอัครราชทูตพร้อมด้วยภริยา ตักบาตรพระ ตามด้วยญาติโยม จากนั้นพระสงฆ์พิจารณา ภัตตาหารแล้วฉันภัตตาหาร

แล้วเสร็จเวลาต่อมาท่านเอกอัคราชทูต มาสนทนา หารือ และให้ข้อมูล ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ว่าขอนิมนต์คณะเราไปร่วมกิจกรรม การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ศิลปะวัฒนธรรมไทย ที่ประเทศโคลัมเบีย ในวันที่ 26-28 เมษายนนี้ โดยเฉพาะการสอนสมาธิ และการส่งเสริมการค้าการลงทุน ตลอดจน การแสดงรำไทย การปรุงอาหารไทย คณะสงฆ์เราตอบรับที่จะไปตามคำนิมนต์ และ ช่วยประสานงานคณะ ลูกศิษย์ด้าน ต่างๆ เพื่อมาเติมเต็มการขับเคลื่อนงานให้สมบูรณ์ สืบต่อไป

เวลาต่อมา นายสรยุทธ พร้อมภริยา และศรัทธาญาติโยม ร่วมถวายจตุปัจจัย พระสงฆ์ให้พร และปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคล แก่ญาติโยมและสถานที่ จากนั้น ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเดินมาส่งคณะสงฆ์ เพื่อกลับไปปฏิบัติศาสนกิจสืบต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้

'นายกฯอิ๊งค์' อวยพรคนไทย สุขสันต์ 'วันลอยกระทง' ฉลองปลอดภัย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งคำอวยพร และเชิญชวนคนไทยร่วมลอยกระทงว่า “สวัสดีพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่าน สวัสดีจากประเทศเปรู

'นายกฯอิ๊งค์' สวมผ้าไหมไทย ถก 'ปธน.เปรู' ผลักดัน FTA ให้เสร็จปี 68

นายกฯ สวมผ้าไหมไทยศูนย์ศิลปาชีพ ถก 'ประธานาธิบดีเปรู' ผลักดันการเจรจา FTA ให้เสร็จภายในปี 68 ปลี้ม Softpower หนังไทย เพลงไทย ฮิตในเปรู

'อุ๊งอิ๊งออนทัวร์' เตรียมบินไปจีนแก้ปัญหาแก๊งเทา ลัดฟ้าไปเปรู ประชุมเอเปค

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่