บอสใหญ่ 'ฟอร์มูลาวัน' หารือนายกฯ เห็นพ้องศึกษาความเป็นไปได้ไทยสู่เจ้าภาพในอนาคต

ทั่วโลกจับตา ไทยเดินหน้าจัดศึก “สูตร 1 ฟอร์มูล่าวัน” หลังบอสใหญ่ Formula One หารือนายกฯ เร่งศึกษาความเป็นไปได้ดันไทยสู่เจ้าภาพในอนาคต เชื่อโลเคชั่นฯ สนามในไทยดึงดูดแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกได้แน่นอน

18 มีนาคม 2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นาย Stefano Domenicali ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Formula One Group เข้าพบหารือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับประธานฯ บริษัท Formula One Group สู่ทำเนียบรัฐบาลไทยอีกครั้ง พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมศึกษาความเป็นไปได้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Formula One (F1) ได้ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากการหารือครั้งล่าสุดของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2567 สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการจัดงานระดับโลก รวมทั้งขอบคุณที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยต่อความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันดังกล่าว โดยเชื่อว่า การแข่งขันกีฬาระดับโลกเช่นนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศไทยในการจัดงานระดับสากล แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมทำงานร่วมกับ Formula One Group อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ประธานฯ บริษัท Formula One Group กล่าวว่า การจัดการแข่งขัน F1 ในไทยจะเป็นโอกาสที่หลากหลายและมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งไทยมีฐานแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่แข็งแกร่ง เเละสามารถใช้ประโยชน์จากนักแข่งที่มีชื่อเสียงเพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ F1 ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวพำนักในไทยนานขึ้น ได้สำรวจวัฒนธรรมไทยที่มีเอกลักษณ์ รวมทั้งเห็นถึงศักยภาพของไทยจากการสนับสนุนของทุกภาคส่วน โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ โดยยืนยันว่า Formula One Group จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ F1 ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่นในไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่จะทำการศึกษาอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสถานที่ตั้งสนามแข่งในเมืองที่เหมาะสม การลงทุนที่เกี่ยวข้อง และความเป็นไปได้โดยรวมของการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน F1

ขณะที่ประธานฯ บริษัท Formula One Group กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมผู้จัดของ F1 มุ่งเน้นการจัดงานที่สามารถสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นจากสนามแข่งของแต่ละประเทศ ซึ่งปัจจุบัน F1 เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยฐานผู้ชมกว่า 1.61 ล้านคน ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในกลุ่มอายุและเพศ ทั้งนี้ ทีมผู้จัด F1 ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงและการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และเชื่อมั่นว่า F1 จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลกได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นพ้องและยินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมการ รวมทั้งเน้นย้ำการสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนเพื่อให้รับทราบถึงประโยชน์ในการจัดการแข่งขันนี้ และสร้างความสนใจในกีฬาชนิดนี้ให้เพิ่มมากขึ้นด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้องนาย ‘จิรายุ’ แนะฝ่ายค้านอย่าใช้ภาษาต่ำสะดือ อย่าเหยียดเพศ

”จิรายุ“ ขอฝ่ายค้านอย่าใช้ภาษาต่ำสะดือ อย่าเหยียดเพศ วอนทำการเมืองสร้างสรรค์อย่างที่พยายามสื่อสารมาตลอด ยืนยันนายกฯ ไม่รู้สึกกดดัน พร้อมชี้แจงทุกเรื่องระดับ  “Wonder Woman.“

เตือน! ข้อมูลเท็จอย่าเชื่อนายทุนขาย ‘บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน’ เสี่ยง NCDs หนักกว่า 2 เท่า

รัฐบาลย้ำข้อมูลเท็จเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (HTPs) ว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป เตือนเพิ่มความเสี่ยงป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ถึง 2 เท่า พร้อมแนะประชาชนระมัดระวังอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเสียชีวิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

โฆษกรัฐบาล ยืนยันนายกฯอิ๊งค์ 'เก่งจริง' จี้ฝ่ายค้านซักฟอกสร้างสรรค์ ไม่บูลลี่ด้อยค่า

จิรายุ-โฆษกรัฐบาล มั่นใจในความสามารถของ นายกฯแพทองธาร จะสามารถชี้แจงทุกประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมเรียกร้องฝ่ายค้านทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก๋าอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์เพื่อร่วมแก้ปัญหาประเทศ

'จิรายุ' เผยภารกิจพบ 'ชาวอุยกูร์' ถูกส่งกลับจีน ได้รับการดูแลอย่างดี แม่สุดดีใจได้พบลูก

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 09.40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก