
‘TikTok’ ประกาศทุ่มเงินกว่า 3 แสนล้านบาท เดินหน้าลงทุนในไทย พร้อมสนับสนุนนวัตกรรม-เศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งสินค้าโอทอป และซอฟพาวเวอร์ไทย ผ่านแพลตฟอร์มให้กระหึ่มโลก
28 ก.พ. 2568 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางเฮเลนา เลิร์ช (Mrs. Helena Lersch) รองประธานนโยบายสาธารณะ (Vice President of Public Policy) บริษัท ติ๊กต๊อก (TikTok) และคณะ เข้าหารือกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยนางเฮเลนา เลิร์ซ แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนจากรัฐบาลในการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนในประเทศไทย และบริษัทยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลและทุกภาคส่วนขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคดิจิทัล
ทั้งนี้ ผู้บริหารบริษัทฯ ได้ประกาศการลงทุนมากถึงกว่า 3 แสนล้านบาท (8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในประเทศไทย โดยจะลงทุนอย่างต่อเนื่อง 5 ปี และมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของไทย โดยเฉพาะการตั้ง Data Hosting ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลของผู้ใช้ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีระดับภูมิภาค
ในการหารือครั้งนี้ได้ระบุถึงการเสริมสร้าง การรู้เท่าทันสื่อสังคม ออนไลน์ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับ TikTok ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาข่าวปลอมและการหลอกลวงทางออนไลน์ ขณะที่ผู้บริหารระดับสูง TikTok ยืนยันพร้อมให้ร่วมมือกับรัฐบาล ในการตรวจสอบเนื้อหา และการสร้างแคมเปญส่งเสริมความรู้ดิจิทัลให้กับประชาชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์และการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย โดยเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในยุคดิจิทัล ที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวหน้า รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคในอนาคต
“นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ที่บริษัท TikTok ได้ลงทุนจัดตั้งโครงการให้บริการจัดเก็บข้อมูล หรือ Data Hosting ในประเทศไทย พร้อมชื่นชมความร่วมมือในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ไทยผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop รวมถึงการสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการและผู้สร้างคอนเทนต์ชาวไทยในการเข้าถึงตลาดโลกได้อีกด้วย” นายจิรายุ ระบุ

จากนั้น เวลา 10.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองให้แก่นางเฮเลนา เลิร์ช และคณะ พร้อมกล่าวถ้อยแถลง โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารของ TikTok พร้อมกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน นายกรัฐมนตรียังชื่นชมความสำเร็จของ TikTok ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยกว่า 50 ล้านคน ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันถึงบทบาทที่สำคัญของแพลตฟอร์มในการเชื่อมโยงผู้คน และกระตุ้นการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการที่รัฐบาลอนุมัติโดย BOI ในโครงการจัดตั้ง Data Hosting ในประเทศไทยของ TikTok ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ TikTok ต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค สอดคล้องกับเป้าหมายของไทยในการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้เข้มแข็ง ซึ่งบทบาทของ TikTok ที่ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความบันเทิง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการสร้างงาน การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมข้ามชาติ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ TikTok ที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) การผลิตเนื้อหา และการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานไทย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐและ TikTok เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อธุรกิจและประชาชน โดยประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้าน ทั้งที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีความมั่นคง รวมถึงแรงงานที่มีทักษะสูง เมื่อรวมกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรกับนักลงทุน สิ่งเหล่านี้ทำให้ไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการขยายธุรกิจของ TikTok และการลงทุนของ TikTok ยังช่วยส่งสัญญาณไปยังนักลงทุนทั่วโลกว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนที่มีคุณภาพสูงในเศรษฐกิจดิจิทัล

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชม TikTok ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมอัตลักษณ์ของไทยในเวทีโลก และเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการท่องเที่ยวของไทยผ่านการสร้างกระแสให้กับแคมเปญต่างๆ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะแฮชแท็ก #Thailand ที่ถูกใช้ในกว่า 4 ล้านโพสต์ เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีโลก รวมถึงกรณีของ “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระของสวนสัตว์ที่กลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์ม สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้เนื้อหาดิจิทัลในการสนับสนุนการอนุรักษ์และความยั่งยืน และได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนการลงทุนของ TikTok และพร้อมให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ การอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน และการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนและนวัตกรรมของ TikTok จะไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ผู้สร้างสรรค์เนื้อหา และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยรัฐบาลไทยพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับ TikTok ในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมขอบคุณ TikTok ที่ได้ให้ความมั่นใจในประเทศไทย และแสดงความยินดีที่เป็นพันธมิตรสำคัญในการเดินหน้าสู่อนาคตดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน'
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน' เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการ หลังนายกฯยุบสภาฯ
'อนุทิน' ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่า 3 เดือนที่ผ่านมา
'อนุทิน' ประกาศ 'ผมเป็นนายกฯ' พร้อมดัน 'เอกนิติ -ศุภจี-สีหศักดิ์' เป็นรองนายกฯ สู้ศึกเลือกตั้ง โวมีสส.เพิ่มทุกครั้ง พร้อมเปิดนโยบายทหารอาสา 1 แสนคนเงินเดือน 1.2 หมื่นเพิ่มความเข้มแข็งปกป้องอธิปไตย

