อดีตรองโฆษกปชป. บี้'ประยุทธ์-วิษณุ'ทบทวนตั้ง'สราวุธ' ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานสำคัญ ทั้งที่ถูกชี้มูลความผิดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างฯ ประธานศาลฎีกาได้มีคำสั่งแต่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง ลั่น หยุดปราบทุจริตด้วยปาก
28 ม.ค.2565 - นายเชาว์ มีขวด ทนายความและอดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง
เตือนนายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ หยุดละเมิดคำสั่งประธานศาลฎีกา มีเนื้อหาดังนี้
ข่าวการแต่งตั้งนายสราวุธ เบญจกุล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ในหน่วยงานสำคัญของรัฐห้วงเวลาเดียวกันถึง 3 หน่วยงาน คือ รองประธานอนุกรรมการ (คนที่ 1) ในคณะอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับการอุทธรณ์ มีหน้าที่ทำการแทน ก.ตร.ในเรื่องการอุทธรณ์และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับวินัยข้าราชการตำรวจ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และกรรมการการไฟฟ้านครหลวงอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ทั้ง ๆ ที่นายสราวุธ ถูกชี้มูลความผิดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงอาคารศาลจังหวัดพระโขนง รวมทั้งอาคารศาลจังหวัดตลิ่งชัน และอาคารศาลจังหวัดมีนบุรี ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปความเห็นว่า นายสราวุธ เบญจกุล ซึ่งเป็นผู้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงอาคารศาลทั้ง 3 แห่ง มีมูลความผิดวินัยร้ายแรง ประธานศาลฎีกาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแก่ นายสราวุธ เบญจกุล และได้ส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 แล้ว และต่อมาได้มีคณะผู้พิพากษาอาวุโสนำเรื่องนี้ไปร้องต่อปปช. ให้เอาผิดกับพลเอกประยุทธ์และนายวิษณุข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157
การกระทำของผู้มีอำนาจทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า เหตุใดดัชนีความโปร่งใส หรือดัชนีการรับรู้การทุจริตในปี 2564 ที่เพิ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา อันดับของเราถึงได้ถดถอยไปถึง 6 อันดับ ตกไปอยู่อันดับที่ 110 ของโลกจากทั้งหมด 180 ประเทศ แพ้แม้กระทั่งติมอร์ เลสเต เวียดนาม และอินโดนีเซีย แต่ยังตีปี๊บว่ามีคะแนนเพิ่มขึ้นอยู่หนึ่งหัวข้อคือ การทุจริตในภาครัฐ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการ เกี่ยวกับสินบน การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับส่วนรวม ที่ได้คะแนนเพิ่มจาก 20 ในปี 2563 เป็น 26 ในปี 2564 แต่ถ้าดูจากคะแนนแล้วจะเห็นว่าหัวข้อนี้ได้คะแนนต่ำที่สุดจากทั้งหมด 9 หัวข้อ แม้จะได้เพิ่มมาอีก 6 คะแนนในปี 2564 ก็ตาม
ถ้าระดับนโยบายยังปูนบำเหน็จให้กับคนที่มีมลทิน ไม่สนคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของประธานศาลฎีกา ยังดึงดันแต่งตั้งนายสราวุธให้ดำรงตำแหน่งกรรมการในหน่วยงานสำคัญของรัฐในห้วงเวลาเดียวกันถึงสามตำแหน่ง ถือเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ตามอำเภอ และแทรกแซงการบริหารงานบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรม ที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ความคุ้มครองเรื่องความเป็นอิสระในการบริหารงานบุคคลกรงบประมาณ และการดำเนินการอื่น
ที่สำคัญเป็นการไม่ให้เกียรติต่อตำแหน่งประธานศาลฎีกา ยังเป็นการด้อยค่าและทำลายความน่าเชื่อถือของประธานศาลฎีกาผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายสราวุธ เบญจกุล ด้วย จึงเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์และนายวิษณุได้ทบทวนคำสั่งแต่งตั้งนายสราวุธ ทุกตำแหน่ง และหยุดปราบทุจริตด้วยปาก แล้วหันมาพิสูจน์ด้วยการกระทำ เอาให้ชัดคือ รัฐบาลต้องไม่สนับสนุนคนที่มัวหมอง ถ้ายังดึงดันที่จะทำคงได้ชื่อเพียง”ปราบทุจริตแต่ลมปาก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เชาว์' บี้ 'สภาทนายความ' สอบมรรยาท 'ษิทรา'
'เชาว์' บี้สภาทนายความสอบมรรยาท 'ทนายตั้ม' หลังโดนแจ้งความฉ้อโกง 71 ล้าน วอนเร่งจัดระเบียบทนายโซเชียลผุดเป็นดอกเห็ด
'ทนายเชาว์' ชี้จุดตาย 3 บอสดารา 'ดิไอคอน' คำชี้แจงฟังไม่ขึ้น
นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊กว่า บทสรุป 3 บอสดารา เตรียม “ร้องเพลงข้ามกำแพงคุก” กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์ กรณีธุรกิจ
'เชาว์' จวก 'ทวี' ตรรกะวิบัติ ยกเด็กทำผิดก่อนอายุ 18 ปี ยังเป็นผู้พิพากษาได้
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ตรกกะวิบัติของ "พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง" มีเนื้อหาระบุว่า กรณีที่พันตำรวจเอกทวีสอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้สัมภาษณ์
เละ! อดีตรองโฆษกปชป. ปูดถูกใบสั่งขับพ้นพรรคประชาธิปัตย์
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้บริหารพรรคพยามจัดการกับคนที่เห็นต่าง
'เชาว์' แนะ 'เฉลิมชัย-21 สส.' ทิ้งพรรคแบบกลุ่มธรรมนัส เปิดทางฟื้นฟู ปชป.
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าถึงผู้บริหาร ปชป. เมื่ออุดมการณ์ของพรรคไม่ต้องจริตกับพวกท่าน ขอให้จากไปด้วยดี
'ชูศักดิ์' เชื่อได้ดูแลด้านกฎหมายไม่กล้าปิดตำนาน 'เนติบริกร'
'ชูศักดิ์' คาดได้รับผิดชอบงาน กม. เล็งแก้รัฐธรรมนูญ กำหนดมาตรฐานจริยธรรมให้ชัดเจน ไม่ห่วงคดี 'นายกฯอิ๊งค์' เพราะศึกษาบทเรียนในอดีต