นักวิชาการ มธ. ย้ำ เก็บภาษีคริปโตฯ ต้องเสมอภาค 'Day trade-ถือครองยาวเกิน 1 ปี' อาจจัดเก็บในอัตราที่ต่างกัน


อาจารย์ธรรมศาสตร์ ชี้ การเก็บภาษีคริปโตฯ ถูกต้องในหลักการการเก็บภาษีที่ดี แต่ต้องออกแบบให้เหมาะสม-เทียบเคียงกับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างกลุ่มรายได้ ระบุอาจจะต้องพิจารณาอัตราที่จัดเก็บระหว่าง “Day trade และถือยาวเกิน 1 ปี” ที่แตกต่างกัน

27 ม.ค.2565 - ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ คงเจริญ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงการเก็บภาษีจากการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี ตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้ในหลายประเทศก็มีการเรียกเก็บภาษีจากการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี เช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งโดยหลักการแล้ว การเก็บภาษีจากคริปโตเคอร์ เรนซีถือเป็นความเสมอภาคเท่าเทียมกับการเก็บภาษีจากการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นรายได้ประเภทหนึ่ง อีกทั้งผู้ที่มีรายได้จากการลงทุนมักจะเป็นผู้ที่มีฐานะดีกว่ารายได้ประเภทอื่น ๆ

อย่างไรก็ดี สินทรัพย์ดิจิทัล หรือเหรียญต่างๆ ที่ซื้อขายกันอยู่ในปัจจุบัน ส่วนมากมิได้ออกโดยผู้ประกอบการในประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อขายทรัพย์สินที่ออกโดยหน่วยงานในต่างประเทศ ส่วนตัวคิดว่า การเก็บภาษีในอัตราที่สอดคล้องเทียบเท่าที่อื่น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี

“หากมองว่าการจะพัฒนาคริปโตฯ หมายถึงการออกคริปโตใหม่ๆ ซึ่งตรงนี้ จำเป็นต้องมีการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเป็นตลาดรองเพื่อรองรับ ซึ่งหากตลาดรองมีสภาพคล่องมากขึ้น ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในเมืองไทยจะสามารถออกคริปโตฯ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆ ได้ ฉะนั้นในส่วนนี้เราก็อาจจะต้องสร้างสมดุลระหว่างอัตราภาษีที่จะจัดเก็บภาษี และจะต้องเทียบเคียงกับการลงทุนอื่นๆ” ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ ระบุ

ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ กล่าวว่า การลงทุนคริปโตฯ มี 2 ส่วน ได้แก่ 1. Day trade ซื้อขาย-มีรายได้ทุกวัน ซึ่งในกรณีนี้สหรัฐฯ ก็มองว่าเป็นรายได้คล้ายกับการทำงาน ซึ่งถูกจัดเก็บภาษีในอัตราเดียวกับภาษีเงินได้ 2. การลงทุนที่ถือยาวเกิน 1 ปี ในสหรัฐมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งก็จะนับเป็นอีกอัตราหนึ่งเทียบเท่ากับการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ฉะนั้นการคิดอัตราก็จะต้องเทียบเคียงว่าตรงไหนคืออัตราที่เหมาะสม

หากมองในแง่ของความเท่าเทียมกัน ผู้ที่มีรายได้ก็ย่อมต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับส่วนรายได้จากทุกแหล่งของตนเอง ฉะนั้นผู้ที่เป็นนักลงทุนในตลาดทางการเงินถ้าได้กำไรก็ต้องเสียภาษี ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นการลงทุนระยะสั้น-ระยะยาว อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในตลาดคริปโตมิได้ก่อให้เกิดกำไรอย่างเดียว ซึ่งในต่างประเทศเมื่อเกิดผลขาดทุนจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อที่สูงกว่าราคาขาย (Capital Loss) นักลงทุนสามารถนำส่วนที่ขาดทุนไปหักกับรายได้ในอนาคตที่ต้องเสียภาษี หากจะให้เกิดความเป็นธรรมก็จะต้องมีระบบที่จะสามารถจัดการในส่วนนี้ได้

“ถ้ามองในแง่ของการเป็นรายได้ เวลาทำธุรกิจก็มีช่วงที่ขาดทุน-ได้กำไร ก็สามารถนำมาชดเชยระหว่างช่วงเวลาได้ ว่าสุดท้ายแล้วรายได้สุทธิเป็นเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเรามีรายได้จากการลงทุนก็ควรที่จะต้องเสียภาษีเหมือนกับรายได้อื่นๆ หรือการประกอบอาชีพอื่นๆ แล้วมีรายได้” ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ ระบุ

ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ กล่าวว่า การเก็บภาษีคริปโตฯ มีบทเรียนแล้วจากในหลายประเทศ รวมไปถึงการรับฟังความคิดเห็นจากหลายกลุ่ม เช่น หากเก็บแล้วขาดทุนจะต้องทำอย่างไร ซึ่งก็กลายเป็นคำถามว่าระบบจะต้องจัดการอย่างไรเพื่อจัดเก็บข้อมูลที่จะทำให้เสียภาษีได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นภาครัฐที่ได้เงินภาษีก็น่าจะต้องเข้ามาช่วยเหลือนักลงทุนรายย่อยและกระบวนการต่างๆ ในส่วนนี้

ขณะเดียวกันตัวกลาง (Exchange) ที่ได้ค่าธรรมเนียมก็จะต้องมีการช่วยเหลือนักลงทุน จัดข้อมูลให้ง่ายเพื่อลดต้นทุนของนักลงทุนในการจัดการเรื่องภาษี ในต่างประเทศบางตัวกลางจะมีระบบที่สามารถจัดการ คำนวณการซื้อขาย-รายรับเพื่อให้นักลงทุนสามารถเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ ควรจะต้องมีการพูดคุยกันหลายฝ่ายเพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงสามารถตอบคำถามได้ว่าควรจะต้องจัดเก็บภาษีในอัตราเท่าไหร่และเทียบเคียงกับรายได้จากแหล่งใด

“จริง ๆ แล้วระบบภาษีของไทยก็ยังมีรายได้ส่วนอื่นที่ยังไม่ได้ถูกจัดเก็บภาษี ตัวอย่างเช่น ภาษี capital gain ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจริงๆ แล้วขนาดของฐานภาษีใหญ่กว่าตลาดคริปโตมาก แต่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดหลักทรัพย์มีจำนวนมาก ฉะนั้นอาจจะเป็นประเด็นที่ดำเนินการได้ยากกว่ากรณีของคริปโตฯ ถ้ามองในแง่ของความเท่าเทียมกันจริงๆ แล้วควรจะต้องไปเก็บภาษี Capital Gain Tax ในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเพื่อให้มีความเท่าเทียมในการลงทุนระหว่างสินทรัพย์ทางการเงิน” ผศ.ดร.เฉลิมพงษ์ ระบุ

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนติดต่อ
MEDIA HOTLINE : พรศรินทร์ ศรีสวัสดิ์ / 087-171-8944 / [email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

90 ปี สถาปนาธรรมศาสตร์ ก้าวสู่ 'มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำเพื่อสังคมแห่งอนาคต'

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครบรอบปีที่ 90 พร้อมมอบรางวัลเข็มเกียรติยศ ให้แก่ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” อดีต รมว.คลัง และ อดีต รมว.คมนาคม ในฐานะผู้ประกอบคุณงามความดีต่อสังคมและประเทศชาติ ขณะที่

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุ สว. ชุดใหม่ คือผู้กำหนดภูมิทัศน์การเมืองไทยไปอีก 5 ปี

อาจารรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ระบุ สว. ชุดใหม่ ยังมีอำนาจมากเกินไป และจะเป็นผู้กำหนดภูมิทัศน์การเมืองประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า

มธ. จัดเสวนารุมสับระบบเลือก สว.ชุดใหม่ เป็นปัญหามากที่สุด ซับซ้อน ทำให้งงอย่างจงใจ

ศูนย์นิติศาสตร์ จัดเสวนาวิชาการ “การเลือก สว. และประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กับอนาคตประชาธิปไตยไทย” เนื่องในงานรำลึก 32 ปี พฤษภาประชาธรรม 2535

'ธรรมศาสตร์' เตือน! อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) แจ้งเตือนบุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า ประชาคมธรรมศาสตร์ และประชาชน ระวังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ขณะนี้พบพฤติกรรมของมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็น “เจ้าหน้าที่กอง

สำรวจบาดแผล 'เด็ก' ในยุคที่กลายมาเป็น 'คอนเทนต์' ของผู้ใหญ่

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชวนสำรวจบาดแผล ‘เด็ก’ ในยุคที่ต้องกลายมาเป็น ‘คอนเทนต์’ เพราะความเปราะบางของเนื้อหาจะทิ้งร่องรอยความบอบช้ำไว้เสมอ