31 ม.ค.2568 - กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระบุว่า ในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 68 ยังมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง ที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง อากาศเริ่มอุ่นขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า ลมในระดับล่างเริ่มมีทิศทางแปรปวนโดยมีลมทิศใต้ และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา มีกำลังอ่อนลง ส่วนลมระดับบน มีลมตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว เป็นช่วงปลายฤดูหนาว
เมื่อลมมีกำลังอ่อนต้องเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นที่จะเพิ่มขึ้นอีกช่วง ออกนอกบ้านสวมหน้ากากอนามัย ส่วนภาคใต้คลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลง และมีฝนบางแห่ง อากาศแห้ง ระวังอัคคีภัยที่เกิดขึ้นได้ง่าย
ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยจะมีฝนบางพื้นที่ในภาคตะวันออก
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง รวมทั้งระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก
ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง ส่วนประชาชนในภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 12 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคในวันที่ 4 ก.พ. 68 อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้าทางตอนบนของภาค กับมีเมฆบางส่วน ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค กับมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.พ. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 ก.พ. 68 อากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯ ชี้ทั่วไทยเจออากาศร้อน
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวันโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยบริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่ง
กรมอุตุฯ เตือนรับมือพายุ ประเดิมเข้าฤดูร้อน คาดอากาศไม่ร้อนแรงเท่าปีที่แล้ว
กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 1-15 มี.ค.68 init. 2025022812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF)
ไทยร้อนจัด! กลางวันอุณหภูมิพุ่ง ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรมอุตุฯเตือนดูแลสุขภาพ
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยพื้นที่ประเทศไทยตอนบนเผชิญอากาศร้อนในเวลากลางวัน ขณะที่ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง แนะประชาชนเลี่ยงอยู่กลางแจ้งนาน ๆ ด้านคุณภาพอากาศในหลายพื้นที่เริ่มมีฝุ่นสะสมเพิ่มขึ้น
พยากรณ์ 15 วันล่วงหน้า อากาศร้อนพุ่ง 38 องศา ฝนฟ้าคะนองบางวัน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 28 ก.พ. - 14 มี.ค. 68
อุตุฯ เตือนอากาศร้อน อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา ฝนฟ้าคะนอง 10%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณภูมิสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุม
สภาพอากาศทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป