“กรมข่าว ทบ.” อบรม “ปขบ.9” มุ่งเน้นเข้าใจงานข่าวกรองทุกระดับ สู่เครือข่ายด้านความมั่นคง-เท่าทันเทคโนโลยียุคใหม่ เผย “สจล.” จับมือ “ทบ.” ทำ MOU แลกเปลี่ยนความรู้-บุคลากร เข้าอบรมหลักสูตร ปขบ.9 สจล. พร้อม มอบทุนป.เอก ให้บุคลากร ทบ.
26 ม.ค.2568 - พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เปิดเผยว่า ในการฝึกอบรมหลักสูตรการประสานงานข่าวกับผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรุ่นที่ 9 (ปขบ.9) โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ต.ประเสริฐ หมวดเชียงคะ ผู้อำนวยการสำนักวิเทศน์สัมพันธ์ กรมข่าวทหารบก เป็นหัวหน้าคณะนำผู้เข้ารับการอบรมเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ ณ กองเรือภาคที่1 โดยมีกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน ศึกษาดูงานภารกิจกองทัพเรือ เรียนรู้กิจการของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ โดยมี นาวาเอก พงษ์ศักดิ์ รามนุช ผู้บังคับการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นผู้นำคณะเยี่ยมชมและบรรยายเนื้อหาในครั้งนี้
ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวมีการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 15 ม.ค. – 28 มี.ค. 68 มีกรมข่าวทหารบก และโรงเรียนข่าวทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการอบรม มีผู้เข้ารับการอบรม เป็นผู้บริหารในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 90 คน ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร 4 นาย, ตำรวจ 3 นาย, ข้าราชการพลเรือนและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 13 คน, สื่อมวลชน 4 คน และภาคเอกชน 66 คน
ด้าน พล.ต.ประเสริฐ หมวดเชียงคะ ผู้อำนวยการสำนักวิเทศน์สัมพันธ์ กรมข่าวทหารบก กล่าวว่า คนที่มาเรียนจะเป็นผู้บริหารทั้งภาครัฐ และ เอกชน ประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และภาคเอกชน ทั้งจากมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์การบริหารที่แตกต่างกันออกไป สามารถที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้ โดยการฝึกอบรมได้มุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ต่อราชการด้านการข่าวเพื่อความมั่นคง ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานข่าวกรองในทุกระดับ ที่สามารถนำไปสู่การบูรณาการเครือข่ายด้านความมั่นคงที่ยึดมั่นต่อสถาบันหลักของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเนื้อหาการฝึกอบรมที่ทันสมัย เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของข่าวสารในยุคสื่อดิจิทัลโซเชียลมีเดีย โดยหลักสูตรนี้มีการศึกษาถึงผลกระทบจากพัฒนาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่องานด้านการข่าว และการสงครามยุคใหม่ (Modern Warfare) เช่น เทคโนโลยี 6G ดาวเทียม ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโดรน เป็นต้น
โดยในหลักสูตร ปขบ.9 ได้มีการแลกเปลี่ยนและสนับสนุนด้านวิชาการ ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจ(MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ระหว่างกองทัพบก(ทบ.) กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) เพื่อร่วมกันให้ความรู้ จัดอบรมหลักสูตร แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งทาง สจล. โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีอวกาศและวิจัย (ECSTAR) ได้ส่งบุคลากรนักวิจัยรุ่นใหม่เข้าร่วมในหลักสูตร ปขบ.9 ครั้งนี้ด้วย อีกทั้งทาง สจล. ยังได้มอบทุนปริญญาเอก ให้กับบุคลากรของกองทัพบก 1 ทุน และ อาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. อีก 1 ทุน ในปีการศึกษา 2568 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพยังไม่พบเหตุละเมิดหยุดยิง ยันห้ามเขมรกลับเข้า 'บ้านหนองจาน'
กองทัพยันยังไม่พบเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 72 ชม. ไทยยึดเคร่งครัด แจงชาวกัมพูชากลับเข้า 'บ้านหนองจาน' ในเขตฝ่ายไทยไม่ได้
ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยันกระสุนคลัสเตอร์มีเป้าหมายทหาร ไม่ใช่ทุ่นระเบิดสังหารพลเรือน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพวัตถุระเบิด และถ้อยแถลงของ นายลี ทุจ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา CMAA โดยกล่าวอ้างว่า ไทยมีการใช้กระสุนปืนใหญ่แบบกระสุนคลัสเตอร์ M-46 ในหลายประเด็นดังนี้
กองทัพภาค 2 แจงเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่สุรินทร์ ทหารบาดเจ็บ 4 นาย
อากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ได้ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะปฏิบัติการร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยาน
บันลือโลก! กองกำลังบูรพา ทำลายอาคารฝั่งปอยเปต แหล่งซ่องสุม สแกมเมอร์-พลซุ่มยิง (ชมคลิป)
ทบ. เผยชายแดน จ.สระแก้ว ฝ่ายไทยปฏิบัติการเข้มข้น เผยกัมพูชาโจมตีใส่บ้านเรือน อ.โคกสูง กกล.บูรพา ทำลายอาคาร 2 หลังฝั่งปอยเปต หลังพิสูจน์ทราบเป็นที่ตั้งเครือข่ายสแกมเมอร์-เขมรตั้งพลซุ่มยิง
คืนอธิปไตยสู่มาตุภูมิ! 'แม่ทัพกุ้ง' ผู้แทน ผบ.ทบ. ตรวจแนวรบปราสาทตาควาย-เนิน 350
พลโท บุญสิน พาดกลาง ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ตรวจแนวหน้าการสู้รบ ณ ปราสาทตาควาย และบริเวณ เนิน 350 ในพื้นที่อำเภอ พนมดงรัก จังหวัด สุรินทร์ เพื่อตรวจสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม พร้อมติดตามผลการปฏิบัติการที่กองกำลังไทยสามารถผลักดันผู้รุกรานและยึดคืนพื้นที่อธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์
กองทัพบกประณามกัมพูชา ใช้กำลังโจมตีพลเรือนชายแดน
โฆษกกองทัพบกระบุ การโจมตีชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยจำนวนมาก

