ครม.รับทราบข้อเสนอมาตรการความปลอดภัยฯ เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

ครม. รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองเด็กตามหลักสิทธิมนุษยชนจากโศกนาฏกรรมรถทัศนศึกษา

7 ม.ค.2568 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะมาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองเด็กตามหลักสิทธิมนุษยชนจากโศกนาฎกรรมรถทัศนศึกษา ตามที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว โดยทางกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้สรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม และจะนำส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

โดยข้อเสนอแนะมาตรการฯ จาก กสม. มีดังนี้

- ให้กรมการขนส่งทางบกเพิ่มความเข้มงวดในการขออนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสาร การต่ออายุ และการขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมายกับรถโดยสารสาธารณะที่ถูกตัดแปลงหรือไม่ได้รับการต่อใบอนุญาต

- ให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจสอบสภาพรถทัศนศึกษา หรือยานพาหนะให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย การมีแบบฟอร์มประกอบการตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนการเดินทาง รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกพนักงานขับรถทัศนศึกษาที่มีประสบการณ์

การอบรมทักษะการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ และจัดให้มีพนักงานประจำรถที่สาธิตและแนะนำวิธีการรับมือหากเกิดอุบัติเหตุ โดยกำหนดเป็นเงื่อนไขไว้ในสัญญาที่จัดหารถทัศนศึกษาพร้อมประกันการเดินทางด้วยทุกครั้ง

- ให้ ศธ. และ มท. กำชับสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ. 2562 รวมทั้งให้ ตช. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรารถที่นำมาใช้รับส่งนักเรียน

- ให้ ศธ. เร่งรัดปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดทัศนศึกษาให้สอดคล้องกับช่วงวัยของเด็กและเยาวชน รวมทั้ง จัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาคบังคับที่มีเนื้อหาการเผชิญเหตุฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุให้กับเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมถึงกำหนดชั่วโมงเรียนเพื่อฝึกปฏิบัติและเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุทุกปี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นร.วัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยฯ 36 คน พร้อมใจบวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลเหยื่อไฟไหม้

โรงเรียนได้เปิดรับสมัครการบวชเณรหน้าไฟให้ผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางโรงเรียนนั้นตั้งเป้าไว้เพียง 36 คน

ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ! บุกตรวจอู่รถถอดถังแก๊ส บริษัทรถบัสมรณะ เป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต

ความคืบหน้าการตรวจสอบอยู่ที่รถบัส 5 คัน ที่เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจยึดตรวจสอบพบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้ บางคันแจ้งเอาไว้ 2 ถัง

ประธานองคมนตรี เชิญพวงมาลาพระราชทาน วางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิตเหตุไฟไหม้รถบัส

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

หัวหมอ! 'เจ้าของรถบัสมรณะ' โยกรถ 5 คันไปไว้ที่อู่โคราช คาดถอดเปลี่ยนแปลงสภาพ

ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการประสานงานจากกรมการขนส่งทางบก ให้ติดตามรถบัสนำเที่ยวของชินบุตรทัวร์ ที่มีบริษัท

ทัวร์ลงยับ! ถามหาจิตสำนึก โรงเรียนวัดเขาพระยาฯ รีบโพสต์รับบริจาคเงิน แต่ไว้อาลัยช้า

จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.

'ในหลวง' ทรงรับผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ของเด็กนักเรียนโรงเรียน วัดเขาพระยาสังฆาราม