ครม. รับทราบโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณสถานีรถไฟที่มีศักยภาพ “โครงการบ้านเพื่อคนไทย”
3 ธ.ค.2567 - นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบ “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน โดยนำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยภายใต้ชื่อโครงการบ้านเพื่อไทย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และสร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในมิติของที่อยู่อาศัยให้กับประเทศ โดยสรุปรายละเอียดได้ดังนี้
- การสำรวจข้อมูลที่ดินที่มีศักยภาพของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนพบว่า ที่ดินรอบพื้นที่สถานีรถไฟ หรือมีทำเลที่ตั้งใกล้กับระบบรางที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถมีประมาณ 38,000 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมไปถึงกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคทั่วทั้งประเทศ โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาในการคัดเลือกพื้นที่ศักยภาพ ประกอบด้วย
1. พื้นที่มีตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับสถานีรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย
2. พื้นที่อยู่ในจังหวัดหลักที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจหรือศูนย์กลางภูมิภาค
3. พื้นที่มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางชุมชน
4. ความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่
5. ความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
6. ความเป็นไปได้ในการจองสิทธิ์โครงการ
7. พื้นที่มีตำแหน่งที่ตั้งใกล้กับมหาวิทยาลัยภูมิภาค
8. อัตราความหนาแน่นของประชากรรอบพื้นที่
9. ราคาประเมินที่ดิน
จากเกณฑ์พัฒนาข้างต้นพบว่า มีพื้นที่มีศักยภาพจำนวน 112 พื้นที่ และได้ประเมินเพื่อคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงจำนวน 25 พื้นที่ รวมพื้นที่ประมาณ 700.14 ไร่ เพื่อศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นในการดำเนินการโครงการ โดยแบ่งการพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็น 3 ระยะ
1.) ระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2567 – 2568) โครงการบ้านเพื่อคนไทยสำหรับโครงการนำร่องแบ่งออกเป็น 2 ระยะ
-ระยะที่ 1 การดำเนินการโครงการอาคารชุด 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่เชียงราก พื้นที่บางซื่อ กม. 11
-ระยะที่ 2 การดำเนินการโครงการบ้านพัก 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่กาญจนบุรี และพื้นที่นครราชสีมา
2.) ระยะสั้น (พ.ศ. 2569-2571) โครงการบ้านเพื่อคนไทย สำหรับโครงการตามแผนงานเบื้องต้น จำนวน 22 โครงการ
3.) ระยะกลาง (พ.ศ. 2572-2576) โครงการบ้านเพื่อคนไทย สำหรับพื้นที่ที่มีศักยภาพ จำนวน 87 โครงการ
กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างครอบคลุมทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่รัฐจะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายโอกาส โดยรัฐบาลจะเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทั้งทางราง ทางน้ำ ทางถนน และทางอากาศอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลหนุนกองทัพเต็มที่ ครม.ไฟเขียวงบจัดหายุทธภัณฑ์ ทุกเหล่าทัพสู้ศึกชายแดน
ครม.ไฟเขียวงบกลาง 206 ล้าน เสริมเขี้ยวเล็บทบ. พร้อมอนุมัติอีก 5 พันล้านให้ทุกเหล่าทัพสู้ศึกชายแดน
ครม. ไฟเขียวไม่เก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 และ 9 ช่วงปีใหม่ 2569
นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9
รัฐบาลปลื้ม 'กทม.' คว้าแชมป์เมืองคนเที่ยวมากสุดในโลก สั่งพร้อมรับช่วงปีใหม่
รัฐบาลปลื้ม 'กรุงเทพมหานคร' คว้าอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด ประจำปี 68 สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่
นายกฯ ถก สมช. รถขนน้ำมันช่องเม็กไปลาว ไม่เลี้ยวขวาเข้าเขมร โต้ใช้อาวุธหนักไล่ไปดูคลิปใครรุนแรงกว่า
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภ
นายกฯหนู กำชับ รมต. อย่าโดดประชุม ครม. พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะเดินทางออกจากพรรคภูมิใจไทย หลังจบการประชถมสส. ปรากฎว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
'รทสช.' ตีปี๊บ! คนรุ่นใหม่แห่ร่วมงาน ลุยศึกเลือกตั้ง
'รทสช.' คึกคัก พร้อมเปิดเกมใหม่การเมืองไทย ลุยศึกเลือกตั้ง 69 ย้ำการเมืองต้องมีอุดมการณ์ ไม่ใช่ดีลผลประโยชน์

