นักวิชาการ กม. ชี้ เมียนมาร์ ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ยิงเรือประมงไทย ละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ จี้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการตอบโต้
1 ธ.ค. 2567 – นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวเมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 2567) ต่อกรณีที่เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย 3 ลำ จนทำให้ลูกเรือบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 1 คน และจับกุมเรือประมงไทย 1 ลำพร้อมลูกเรือ 31 ไว้ว่า
กฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) มาตรา 51 ให้สิทธิแก่รัฐสมาชิกในการใช้กำลังป้องกันตนเองโดยใช้อาวุธ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ ด้วยหลักจารีตประเพณีและคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล (International Tribunal for the Law of the Sea) ซึ่งได้เคยวางหลักไว้ในคดี SAINT VINCENT AND THE GRENADINES V. GUINEA ว่า การใช้กำลังอาวุธด้วยการยิงเข้าใส่เรือประมงจนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของลูกเรือ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐทุกรัฐจักต้องหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอาวุธให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อทำการเข้าจับกุมเรือ แม้ว่าจะเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมายก็ตาม เพราะการใช้กำลังอาวุธจะทำให้มีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้คนของชาติอื่นต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะทำให้เกิดความบาดหมางต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น ซึ่งวิธีที่ยึดถือปฏิบัติกันมาในทางระหว่างประเทศเมื่อพบเรือต่างชาติที่ต้องสงสัย คือการเตือนด้วยเสียงหรืออาณัติสัญญาณในรูปแบบที่เห็นได้ชัดให้เรือต้องสงสัยนั้นหยุด และหากเรือต้องสงสัยนั้นไม่ตอบสนองหรือไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าขึ้นเรือและใช้กำลังเข้าควบคุมความสงบเรียบร้อยได้ หรือหากเรือต้องสงสัยนั้นมีการใช้กำลังอาวุธยิงเข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงสามารถใช้อาวุธยิงตอบโต้ได้
หากปรากฎข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่เมียนมายิงเข้าใส่เรือประมงไทยโดยไม่มีการเตือนหรือแจ้งล่วงหน้าให้หยุดเรือจึงเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาเยียวยาความเสียหาย และปล่อยตัวลูกเรือที่ถูกจับโดยเร็ว มิเช่นนั้นจะต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ (retortion/reprisal) เช่น ส่งทูตกลับประเทศ ปิดน่านน้ำ ปิดชายแดน จำกัดการนำเข้าสินค้า บอยคอตสินค้า ตัดความช่วยเหลือต่าง ๆ กับประเทศเมียนมา ฯลฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำได้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อผดุงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของประเทศไทยและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนไทยที่ประสบเหตุ อย่างเต็มที่ ด้วยความปรารถนาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อาจารย์อุ๋ย' เตือนรัฐบาลรับมือสินค้าจีนทะลักรอบใหม่ ส่อหนักกว่าเดิม หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง
นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการพิจารณา
'อาจารย์อุ๋ย' แนะรัฐบาลต้องส่งทหารเข้าตรึงพื้นที่เกาะกูดก่อนเปิดเจรจากัมพูชา
อาจารย์อุ๋ยจี้รัฐบาลเลิกใช้คำว่า 'พื้นที่ทับซ้อน' ชี้เกาะกูดและพื้นที่ทางทะเลเป็นของไทย 100 % ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำ!ไทยต้องส่งกองกำลังเข้าตรึงพื้นที่ก่อนเปิดเจรจาขุมพลังงาน
นักวิชาการกฎหมาย ปชป. เตือน กก.บห. ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ส่อขัดข้อบังคับพรรค
จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล สุดท้ายแล้วต้องรอมติจากกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะตอบรับคำเชิญหรือไม่ ในฐานะนักกฎหมายและสมาชิกพรรค
จี้รัฐขีดเส้น ห้ามขายกัญชา กระท่อม 'เด็ก นักเรียน นักศึกษา'
อาจารย์อุ๋ย ปชป. ชี้กัญชา กระท่อม มีกฎหมายควบคุมชัดเจน ผู้จำหน่ายต้องมีใบอนุญาต ห้ามโฆษณา ห้ามขายเด็ก นักเรียน นักศึกษา หากฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก
อาจารย์อุ๋ย ชี้นำ 2 สส.ฉาว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ตัวเอง
ขอฝากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้นำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยครับ เพื่อทำให้สังคมเกิดความกระจ่าง และให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกับกรณีของพรรคประชาธิปัตย์