รมว.เกษตรฯ สั่งกรมชลฯ ระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ เข้าระบายน้ำพื้นที่ภาคใต้

28 พ.ย. 2567 - เมื่อเวลา 10.00 น. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ว่า ตนได้สั่งการให้กรมชลประทานติดตั้งเครื่องจักร-เครื่องมือก่อนเกิดภัย รวมทั้งระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ จากพื้นที่ที่ไม่มีอุกทภัย เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือง ภาคกลาง มาสู่พื้นที่ภาคใต้

และมอบหมายเจ้าหน้าที่ประจำและดำเนินการในพื้นที่จุดเสี่ยงอุทกภัยต่างๆ ในการพร้อมลดปัญหาที่เกิดอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ตลอด 24 ชั่วโมง และได้กำชับว่า จะต้องติดตามสถานการณ์น้ำฝน น้ำในลำน้ำ น้ำท่วมขังในพื้นที่ เพื่อดำเนินการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น ในช่วงน้ำทะเลลง ให้เร่งระบายน้ำผ่านอาคารชลประทาน ประตูระบายน้ำลงสู่ทะเล

ส่วนในช่วงน้ำทะเลหนุนให้ดำเนินการปิดประตูระบายน้ำ และเร่งสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่อง โดยให้กรมชลประทานร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย

ทั้งนี้สถานการณ์น้ำและการดำเนินการช่วยเหลืออุทกภัยในภาคใต้ ข้อมูลล่าสุดในวันที่ 28 พ.ย. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีปริมาณฝนตกมากบริเวณเทือกเขานครศรีธรรมราช ทำให้มีปริมาณน้ำหลากจากภูเขาและน้ำในพื้นที่ลงมาสู่คลองท่าดี ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอร่อนพิบูลย์ ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่อ่าวไทย โดยการดำเนินการช่วยเหลือ ในช่วงน้ำทะเลลง ใช้เครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำผ่านคลองระบายน้ำและประตูระบายน้ำเร่งระบายออกสู่ทะเล ส่วนช่วงน้ำทะเลหนุนจะใช้เครื่องสูบน้ำที่ได้ติกตั้งก่อนเกิดอุทกภัยเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่สู่ทะเล

จังหวัดสงขลา สถานการณ์ประสบอุทกภัยบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอระโนด อำเภอสะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย กรมชลประทานได้ดำเนินการสูบน้ำเร่งการระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาและอ่าวไทย ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมความพร้อมของตัวเมืองหาดใหญ่ โดยมีการซักซ้อมและทบทวนแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ โดยใช้ระบายน้ำผ่านคลองระบายน้ำ ร.1 ให้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ดังกล่าว

ในส่วนของจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี มีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่าน ทางต้นน้ำได้ใช้เขื่อนบางลางในการชลอน้ำไม่ระบายมากระทบต่อพื้นที่ตอนล่าง ประกอบกับได้ใช้เครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่อ่าวไทย

จังหวัดยะลา ที่มีแม่น้ำสายบุรีไหลผ่าน เกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอยะหา และอำเภอรามัน ได้ใช้เครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่อ่าวไทย

จังหวัดนราธิวาส ที่มีแม่น้ำโก-ลกไหลผ่าน ซึ่งแม่น้ำโก-ลก มีต้นน้ำมาจากประเทศมาเลเซีย กรมชลประทานได้มีการประเมินและบริหารจัดการร่วมกับประเทศมาเลเซีย ทางด้านการติดตามและการแจ้งเตือนสถานการณ์มายังประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในส่วนอุทกภัยที่เกิดขึ้นในอำเภอเมือง บาเจาะ ยี่งอ รือเสาะ และแว้ง ได้ใช้เครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่อ่าวไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' สั่งตำรวจภาค 8-9 เร่งดูแลประชาชนในพื้นที่อุทกภัยด้ามขวานเต็มที่

'ผบ.ตร.' สั่งตำรวจ ภ.8-ภ.9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัยอย่างเต็มที่ นำแนวทางที่สั่งถอดบทเรียนในพื้นที่ประสบภัยที่ผ่านมา มาปรับใช้

รัฐบาลห่วงใยพี่น้องชาวใต้เจออุทกภัยหนักหลายพื้นที่!

'อนุกูล' เผยรัฐบาลห่วงใยพี่น้องชาวใต้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ส่งกำลังพลและเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือ ลดความสูญเสียให้เกิดน้อยที่สุด

นักเขียนซีไรต์ โกรธรัฐบาลไม่โง่ก็บ้า เซ่อ ซ้ำซาก น้ำท่วมภาคใต้ แต่ไม่ระดมความช่วยเหลือมารอ

นางวีรพร นิติประภา นักเขียนรางวัลซีไรต์ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแคร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ว่า รู้สึกโกรธ

รมว.เกษตรฯ สั่งรวบรวมข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย 67 เตรียมพัฒนาส่งเสริมอาชีพ-ลดภาระหนี้สิน

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงความคืบหน้าภารกิจโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 โดยเร่งสำรวจความเสียหายและรวบรวมข้อมูลเกษตรกร ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงวันที่ 14 ก.ค. 67 – 31 ต.ค. 67 รวม 59 จังหวัด

โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้