คณะผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าร่วมการสัมมนาสมาชิกรัฐสภาของประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จีน

ระหว่างวันที่ 19 – 29 พฤศจิกายน 2567 คณะผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย พร้อมด้วยนายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ เข้าร่วมการสัมมนาสมาชิกรัฐสภาของประเทศสมาชิกอาเซียน (Seminar for Parliamentarians of ASEAN Countries) ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับคณะผู้แทนรัฐสภาจากประเทศต่าง ๆ รวม 7 ประเทศ ที่ได้รับเชิญจากสภาประชาชนแห่งชาติจีน ในฐานะรัฐสภาประเทศเจ้าภาพ ภายใต้หัวข้อ “สำรวจเส้นทางใหม่สู่ความทันสมัยและร่วมมือกันเพื่อสร้างประชาคมจีน – อาเซียนที่ใกล้ชิดด้วยอนาคตร่วมกัน (Explore New Path to Modernisation, Join Hands to Build a Closer China – ASEAN Community with a Shared Future)

เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 คณะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการสัมมนาฯ ซึ่งได้รับเกียรติจาก H.E. Mr. Losang Gyaltsen รองประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติเป็นประธานในพิธีเปิด โดยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการสัมมนาได้แลกเปลี่ยนแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความทันสมัยและการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน

ในการนี้ นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนรัฐสภาไทยฯ ได้เป็นผู้แทนกล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการสัมมนาฯ โดย กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีน ความสัมพันธ์ดังกล่าวมีพัฒนาการมาอย่างยาวนานและมีความสำคัญในหลายด้าน เช่น การค้า การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จและเป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน

นายชิบ ยังได้กล่าวถึงบริบทของโลกในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม พร้อมชี้ให้เห็นว่า อาเซียนและจีนต้องร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางใหม่ที่เหมาะสมกับการพัฒนาในยุคสมัยใหม่ ซึ่งแนวทางดังกล่าวควรให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ความครอบคลุม และความยืดหยุ่น โดยเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

1. การพัฒนาที่ยั่งยืน – มุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
2. การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล – การลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ในเศรษฐกิจดิจิทัล
3. การพัฒนาศักยภาพของประชาชน – ส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาทักษะเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาดแรงงานในอนาคต

นายชิบ ยังได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของการสร้างประชาคมจีน-อาเซียนแห่งอนาคตร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ แต่ยังครอบคลุมถึงการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชน การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการรักษาความมีเสถียรภาพและความสงบสุขในภูมิภาค โดยรัฐสภาไทยมั่นใจว่าการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและจีน และถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยสร้างความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียนในยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสร้างความมั่นคงและความรุ่งเรืองให้กับภูมิภาคในระยะยาว

คณะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ ทั้งหมด มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสัมมนาและกิจกรรมศึกษาดูงาน ระหว่างวันที่ 20-29 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงปักกิ่ง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และนครกวางโจว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ ได้อภิปรายข้อคิดเห็นและนำเสนออย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของจีน ที่ได้นำเสนอตลอดห้วงของการสัมมนาฯ รวมทั้งแนวทางและโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นประชาคมจีน – อาเซียนที่เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต.