8 พ.ย.2567- นายณรงเดช อุฬารกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ประชุมกรรมการนโยบายข้าว: ล่าช้า ซ้ำเดิม และไม่พร้อมรับมือกับภาวะโลกรวน มีเนื้อหาดังนี้
วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะมีการประชุม นบข. (คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ) ครั้งแรกในรัฐบาล นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร โดยมี รองนายกรัฐมนตรี พิชัย ชุณหวชิร เป็นประธาน โดย
ในวาระการประชุม มีการกำหนด วาระเพื่อพิจารณา เรื่อง มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
โครงการชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
โครงการชดเชยดอกเบี้ยผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติดังกล่าวมีเรื่องที่น่าเป็นห่วง 3 ประการ
ประการแรก มีความล่าช้า
มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกทั้ง 3 โครงการ มีความสำคัญมากในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในช่วงต้นฤดูการเก็บเกี่ยว เพราะผลผลิตข้าวนาปีมักเก็บเกี่ยวและออกสู่ตลาดพร้อมๆ กันในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ทำให้ราคาในช่วงดังกล่าวตกต่ำลง ในบางปี ราคาข้าวจึงตกต่ำลง 1,000 - 2,000 บาท/ตัน (เทียบระหว่างเดือนกันยายนกับเดือนพฤศจิกายน) โดยราคาข้าวมักจะลดต่ำลงตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีนั้นๆ เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการชะลอการขายข้าว ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม เพื่อให้สถาบันเกษตรกรช่วยชะลอการขายข้าวบางส่วนไว้ก่อนมิให้ร่างออกสู่ตลาด จนทำให้ราคาข้าวเปลือกนาปีตกต่ำลงในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว
ในความเป็นจริง คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ ของสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากหลายพรรคการเมือง ได้พยายามสอบถามความคืบหน้า ไปยัง นบข. ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา หลายครั้งตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 เพราะปี 2566 ที่ผ่านมา การประชุม นบข. มีความล่าช้า ไปถึง 2 เดือน โดย ในฤดูการผลิต 2565/66 กนข. มีการประชุม วันที่ 8 กันยายน 2565 แต่ในปี 2566/67 กนข. มีการประชุม วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 และล่าสุดปี 2567/68 กนข. มีการประชุม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นั่นแปลว่า ปีนี้ก็มีความล่าช้ากว่าปีที่แล้วอีก
ในปีการผลิต 2567/68 นี้ ราคาข้าวเปลือกเจ้าในช่วงเดือนกันยายน 2567 ยังอยู่ในระดับ 10,602 บาท/ตัน แต่เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ราคาข้าวลดลงไปเกือบ 1,000 บาท/ตัน เหลือเพียง 9,617 บาท/ตัน และล่าสุด เมื่อเข้าสู่สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2567 ราคาข้าวก็ลดลงต่อเนื่องอีกประมาณ 250 บาท/ตัน เหลือ 9,378 บาท/ตัน
ความล่าช้าดังกล่าวสะท้อนออกมาในราคาข้าวที่ลดลงไปกว่า 1,224 บาท/ตัน ทั้งๆ ที่ในช่วงนี้ ที่ควรจะสูงขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่วม แต่ราคากลับไม่สูงเท่าที่ควร
ในปัจจุบัน การเกี่ยวข้าวในหลายพื้นที่ เป็นการใช้รถเกี่ยวนวดข้าว ทำให้การเก็บเกี่ยวข้าวใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ไม่กินระยะเวลานาน เป็นเดือนเหมือนในอดีต โดยข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ผลผลิตข้าวนาปี (ข้าวเปลือกเจ้า) ประมาณร้อยละ 23 จะเริ่มทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2567 และอีกประมาณร้อยละ 65 จะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567
เพราะฉะนั้น การอนุมัติโครงการล่าช้าเพียงสัปดาห์เดียว ก็มีผลกระทบ เพราะชาวนาจำนวนมาก ได้เกี่ยวข้าวขายไปแล้ว ทำให้ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาเท่าที่ควร
ประการที่ 2 ซ้ำเดิม
นอกจากความล่าช้าแล้ว จะเป็นได้ว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการเดิม ที่ใช้มาตั้งแต่รัฐบาลประยุทธ์ โดยไม่ได้มีมาตรการใหม่ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือ การเพิ่มคุณภาพข้าว หรือแม้แต่ปรับปรุง กฏระเบียบต่างๆ ให้มีความสะดวกขึ้น เช่น ไม่มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูล เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับทางสหกรณ์ที่รับซื้อข้าว ทำให้ เกษตรกรต้องพกคู่มือเกษตรกรไปทุกครั้ง
ประการที่ 3 ไม่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
นอกจากนี้ ในที่ประชุม นบข.ที่จะถึงยังไม่มีการเสนอมาตรการใหม่ ที่คำนึงถึง สภาพอากาศวิกฤติทั้ง ภัยแล้ง (เอลนีโย่) และภาวะน้ำท่วม (ลานีญ่า) และมีมาตรการที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งๆที่ มีข้อมูลว่า สภาพอากาศวิกฤติส่งผลต่อปริมาณผลผลิตข้าวและภาคการเกษตรโดยรวมทั่วโลก
ล่าสุด หน่วยงานต่างๆ และพี่น้องเกษตรกรได้ทดลองดำเนินการในการทำนาที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (หรือข้าวลดโลกร้อน) และการทำนาแบบไม่เผาฟาง ซึ่งทั้งสองวิธีมีส่วนช่วยให้ต้นทุนของพี่น้องชาวนาลดลง และ/หรือ มีความสมบูรณ์ของดินและระบบนิเวศการเกษตรดีขึ้น แต่รัฐบาลปัจจุบัน ยังไม่เคยมีนโยบายข้าวที่ชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไร ขยายผลอย่างไร รับมือกับภัยใหม่ๆ อย่างไร นอกจากดำเนินนโยบาย เหมือนที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
รมว.คลังนัดแบงก์ชาติถกกรอบเงินเฟ้อบ่ายนี้
รายงานข่าวระบุว่า ช่วงบ่ายวันนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีนัดหมายกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
'ขุนคลัง' โต้ไทยเสี่ยงถูกหั่นเครดิตเรตติ้งฟุ้งศก.ยังฉลุย
“ขุนคลัง” โต้ถูกลดเครดิตเรตติ้ง ฟุ้งเศรษฐกิจไทยยังฉลุย เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป อวดยอดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศปี 67 ทำลายสถิติ 10 ปี แจงรัฐเร่งปลุกเศรษฐกิจไทยประเทศ หวังเติบโตแข็งแกร่ง รับห่วงเสถียรภาพการเมือง หวังมั่นคงช่วยเรียกความเชื่อมั่น
'พิชัย' จ่อคุย 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' หลายเรื่อง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการนัดหารือกั
พรุ่งนี้รวย! 'พิชัย' ยันจ่ายเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง 25 ก.ย.แน่นอน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงเหตุผลของการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการ
เคาะแจกเงินหมื่นใน4วัน คนลงทะเบียนได้ลุ้นปี68!
“ภูมิธรรม-พิชัย” ประสานเสียงแจกเงินหมื่นเฟส 2 ต้องรอดูเฟสแรกจบก่อน “ขุนคลัง” รับไม่ทันปีนี้แน่นอน “ลวรณ” แจงรายละเอียดแจกกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนใน 4 วัน