สภาทนายฯ แจง 'ทนายตั้ม' โดนหมายจับฝากขังในเรือนจำ คนละส่วนคดีมรรยาททนาย

รองโฆษกสภาทนายฯ แจง ทนายความโดนหมายจับฝากขังในเรือนจำยังไม่พ้นสภาพทนายความ ชี้ คนละส่วนคดีมรรยาททนาย ต้องรอศาลตัดสินถึงที่สุดก่อน แนะลูกความทนายตั้มไม่สบายใจสามารถเจรจาเลิกจ้างหาทนายใหม่ได้

7 พ.ย.2567 - กรณี ศาลอาญา รัชดา ได้อนุมัติหมายจับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ขณะที่ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน ต่อมามีรายงานว่า ทนายตั้มได้ขับรถปอร์เช่ สีน้ำตาล ออกมาจากบ้านหรู ย่านตลิ่งชัน ไปตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว ทนายตั้ม และภรรยา ได้ในพื้นที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวเข้ามาสอบปากคำ ที่กองบังคับการปราบปราม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือตั้ม ทนายความ ที่ถูกตำรวจขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับในข้อหา ฉ้อโกง ฟอกเงิน ทางตำรวจจะต้องนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลางอาจทำให้ลูกความที่ว่าจ้างกับทนายตั้มหรือสำนักงานของทนายษิทรานั้นมีความกังวล โดยต้องอธิบายถึงกระบวนการว่าถ้าหากพนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังต้องดูว่าทางศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ หากว่าทนายตั้มได้ประกันตัวเขาก็สามารถออกมาดูแลลูกความได้ตามปกติ

แต่ประเด็นสำคัญคือ ถ้าศาลไม่ให้ประกันตัว ทนายตั้มจะต้องถูกส่งตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯดังนั้นถ้าเกิดว่ามีนัดกับศาลในคดีของลูกความ เรื่องนี้ทางเสมียนของทนายตั้มจะต้องส่งคำร้องต่อศาลขอเลื่อนนัดพิจารณาในคดีความนั้นๆ แต่หากลูกความรู้สึกไม่สบายใจที่จะจ้างวานทนายคนดังกล่าวต่อ ก็ต้องไปลองคุยเจรจาขอเลิกจ้าง และข้อตกลงกับทางสำนักงานฯ หรือเจ้าตัว เพื่อหาทนายใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างตัวทนายและลูกความในการชำระค่าจ้างทนายความ ซึ่งตนเอง หรือแม้แต่สภาทนายความฯก็ไม่อาจก้าวล่วงได้

ส่วนการพิจารณาคดีมรรยาททนายความนั้น ต้องแจ้งว่าทางสภาทนายฯจะดูเป็นคดีๆไป ถ้าทนายความผู้ใดโดนคดีหรือถูกออกหมายจับ แต่ถ้าข้อหาเป็นคนละส่วนกับที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อสภาทนายฯเรื่องมรรยาททนายความนั้น ก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อการพิจารณา

“โดยทั่วไปแล้วในคดีที่ศาลออกหมายจับและศาลยังไม่ได้พิจารณาคนนั้นๆกระทำผิด เพียงแต่ศาลเชื่อเหตุแห่งการออกหมายจับที่ตำรวจระบุมาเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ถูกออกหมายจับยังไม่ใช่ผู้กระทำผิดเพราะศาลยังไม่ได้พิจารณาคดีจนถึงที่สุด อย่าลืมว่าคนที่ถูกออกหมายจับ เมื่อถึงชั้นพิจารณาตัดสินคดีแล้วก็มีการยกฟ้องได้” นายวีรศักดิ์ กล่าว

ดังนั้นการถูกออกหมายจับหรือมีคดีจึงไม่มีผลกับการพิจารณาเรื่องมรรยาททนายความ ซึ่งต่างจาก ทนายความที่ถูกศาลตัดสินจนคดีถึงที่สุด ว่าทนายคนนั้นทำผิดจริง แล้วมีการลงโทษจำคุก

ยกตัวอย่าง มีทนายความได้ละเมิดอำนาจ และศาลได้พิเคราะห์ พฤติกรรมพยานหลักฐานแล้วพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลจริงมีโทษจำคุก ซึ่งหากจำเลยมีอาชีพทนายความ ศาลจะมีการส่งรายงานมาที่สภาทนายความฯ และขั้นตอนต่อไปทางสภาทนายความฯจะแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่าการกระทำของทนายความคนนั้น เข้าข่ายความผิดข้อบังคับมรรยาททนายความหรือไม่ ข้อใด และควรจะถูกลงโทษอย่างไร โดยการลงโทษเบาสุดคือการภาคทัณฑ์ ตักเตือน ต่อมาคือการพักใบอนุญาตไม่เกินสามปี และขั้นร้ายแรงที่สุด คือการลบชื่อออกจากทนายความ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.พร้อมสอบทุกมิติคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย เผยหาก 'ษิทรา' ไม่มีทนายสามารถซักค้านเองได้

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ

ศาลสั่งจำคุก แอดมินเพจ 'ออยศรีและผองเผือก' หมิ่น 'ทนายตั้ม' ชดใช้เงิน 1 แสน

ศาลอาญาพิพากษาลงโทษ เพจ "ออยศรีและผองเผือก" จำคุก 8 เดือนปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี หมิ่นประมาททนายตั้มให้ชดใช้เงิน 100,000 บาท

ศาลให้ประกัน พี่เมียทนายตั้ม วงเงิน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ

ภายหลังศาลรับฝากขังนางสาวปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขังศาลคำร้องพร้อมหลักทรัพย์

ละเอียดยิบ! เปิดพฤติการณ์ พี่เมีย 'ทนายตั้ม' สมคบฟอกเงิน โกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัว นางสาวปิณฑิรา หรือดาวการวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันฟอกเงิน

คุมตัวพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ฝากขังศาล ตร.ค้านประกัน เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ในคดีเงิน 39 ล้านบาทของ

ตำรวจกองปราบ รวบพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ร่วมกันฟอกเงิน คดีโกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน

พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน”