นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทีอนุภูมิภาค GMS ครั้งที่ 8 ชูแนวทางพัฒนาของไทยด้วยนวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและเท่าเทียม มั่นใจประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สามารถพัฒนาร่วมกัน

07 พ.ย.2567 - 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครคุนหมิง ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชม.) ณ Yunnan Haigeng Convention Center นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat Session) ในการประชุมระดับสุดยอดผู้นำ ครั้งที่ 8 แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของไทย” (Innovation-driven Development) โดยมีนายกรัฐมนตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวมถึงประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) เข้าร่วมด้วย

นายกฯ กล่าวยกย่อง 4 ยอดสิ่งประดิษฐ์ (Four Great Inventions) ของจีน ได้แก่ เข็มทิศ ดินปืน กระดาษ และการพิมพ์ เป็นนวัตกรรมในการพัฒนามนุษย์และสร้างประโยชน์แก่มนุษยชาติในอดีตจนมาถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่เทคโนโลยีจากโลกเสมือนจริง ผสมผสานกับโลกจริง รวมถึงการเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหัวข้อหลักของการประชุมที่มุ่งพัฒนาด้วยนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างประชาคมที่ดีกว่าเดิมถือเป็นหัวใจหลักของแผนงาน GMS ตั้งแต่แรกเริ่ม

นายกฯ กล่าวเสนอแนวทางการพัฒนาอนุภูมิภาคในการประชุมครั้งนี้ ด้วยหลักการนวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”การประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงและเท่าเทียม และสร้างโลกที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

น.ส.แพทองธารกล่าวถึงการพัฒนาของไทยในช่วงที่ผ่านมา ประการแรก รัฐบาลไทยได้บูรณาการ และส่งเสริมนวัตกรรมในนโยบายและแผนพัฒนาประเทศในทุกระดับ โดยความพยายามสำคัญของรัฐบาลคือ การยกระดับการเกษตรแบบดั้งเดิม ให้เป็นเกษตรทันสมัย ผ่านแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” นำเทคโนโลยีมาพัฒนารูปแบบการทำเกษตร เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และส่งเสริมราคาพืชผลทางการเกษตรให้มีเสถียรภาพ ยกระดับรายได้ของเกษตรกร

นายกฯ กล่าวว่า ประการที่สอง นวัตกรรมด้านการเงินของไทย ปัจจุบันประเทศไทยได้ประยุกต์การใช้เทคโนโลยียกระดับบริการทางการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักลงทุน อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินแบบไร้รอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้โครงการ ASEAN Payment Connectivity ในการสร้างระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ผ่าน QR Code เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล มีการลดภาระค่าธรรมเนียมและค่าบริการทางการเงินที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาคม GMS ในที่สุด

นายกฯ กล่าวว่า ประการสุดท้าย ไทยมุ่งมั่นสนับสนุนการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าเป็นพื้นฐานของการสร้างนวัตกรรมที่จะสร้างเศรษฐกิจและสังคมให้ดีขึ้นต่อไป รัฐบาลไทยได้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านมาตรการทั้งทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี การพัฒนาทักษะบุคลากรให้เหมาะสมต่อการสร้างและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมถึงสร้างระบบนิเวศในการพัฒนาประเทศที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมบนฐานของนวัตกรรม

นายกฯ กล่าวต่อผู้นำ 6 ประเทศและประธาน ADB อีกว่า ประเทศไทยเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีเป้าหมายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งจะได้รับการรับรองในการประชุมครั้งนี้ จะทำให้มีการกำหนดแนวทางและประเด็นสำคัญในการดำเนินการ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตลอดจนยืนยันความมุ่งมั่นและความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการพัฒนาด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านนวัตกรรม เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ พร้อมยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน