พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ‘เหนือ’ สัมผัสหนาวต่ำสุด 18 องศาฯ ‘กทม.’ 23 องศาฯ

แฟ้มภาพ

3 พ.ย.2567-กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกตามแนวชายฝั่งทะเล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางและมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตามแนวร่องมรสุม ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม  ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1–2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส  โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค  อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง  อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.  

ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากตามแนวชายฝั่งทะเล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง  บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศพายุดีเปรสชันฉบับ 3 เตือนฝนตก 25-26 ธ.ค.

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 3 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง

หนาวสะท้าน! ยอดดอย ’เลย-เชียงใหม่’ 7 องศาฯ อ.คลองหลวง ปทุมธานี 18.5 องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทย เช้าวันนี้ (22 ธ.ค. 67) วัดได้  11.0 องศาเซลเซียส บริเวณภาคเหนือ ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก และบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อ.เมืองเลย จ.เลย

ลมหนาวมาอีกระลอก อุตุฯชี้อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 2 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกในระยะต่อไป