ศาลยกฟ้อง 'อัจฉริยะ' 2 คดี หมิ่นประมาทผู้การจ๋อ-พนง.คดีแตงโม

31 ต.ค.2567 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ 951/2566 ที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “ผู้การจ๋อ” ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือผู้การจ๋อ ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมฯ ในฐานความผิดฐาน แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อศาลอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 326, 329

พิเคราะห์การนำสืบพยาน หลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ คณะพนักงานสืบสวน ทำการขยายผล ขบวนการค้ายาเสพติด จนสามารถจับกุมนายทุนมินลัต ได้และจากการสอบสวนนายทุนมินลัต ให้การซัดทอดไปถึง นายอุปกิต ปาจรียางกูร สว.ขณะนั้น ว่าเปิดบริษัทโรงงานผลิตไฟฟ้า ในไทย ส่งขายที่เมียนมา ทำให้พยานเชื่อว่า นายอุปกิต ทำการฟอกเงินที่ได้มาจากยาเสพติด คณะพนักงานสอบสวนจึง รายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ออกหมายจับ นายอุปกิต จนรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขอศาลออกหมายจับ และศาลอาญา ได้ออกหมายจับไว้ แต่ ชุดสืบสวน ยังไม่ทันจับกุม ศาลอาญาได้ เพิกถอนหมายจับ เปลี่ยนเป็นหมายเรียกแทน

ขณะที่โจทก์ มีความเคารพนับถือ พล.อ.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่เป็นผบ.ตร.ในขณะนั้นดั่งบิดา และกำลังจะเกษียณอายุในเดือนกันยายน จึงไม่อยากให้เกิดคดีความด่างพร้อยในชีวิตข้าราชการของ พล.อ.อ.สุวัฒน์ จึงได้เรียกชุดคณะทำงาน ที่มี พ.ต.ท.มานะพงศ์ มาพูดคุย และสั่งห้ามสืบสวนคดีต่อ พร้อมระบุว่า คดีนี้ไม่ต้องเร่งรีบ รอให้ นายอุปกิต พ้นจาก สว.ก่อน แต่ชุดทำงาน ยังสืบและทำคดีต่อ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่พอใจ

ต่อมาเมื่อถึงวาระการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2565 ปรากฎว่า ชุดคณะทำงานคดีสว.อุปกิต ถูกย้ายออกนอกหน่วย โดยที่เจ้าตัวไม่สมัครใจ จึงมาร้องเรียนกับจำเลย

จากนั้น จำเลย ได้ไปแจ้งความ ที่ บก.ปปป. ว่า โจทก์ใช้อำนาจโดยมิชอบและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ขณะที่ โจทก์ อ้างพยาน เป็นเจ้าหน้าที่ไต่สวนของป.ป.ช. ที่มีความเห็นว่า โจทก์ไม่มีความผิด ป.ป.ช. จึงไม่รับเรื่อง แต่ศาลเห็นว่า จะรับฟังข้อมูลจากป.ป.ช. อย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิเคราะห์ถึงพยาน หลักฐานและพฤติกรรมของโจทก์ด้วย โดยคณะกรรมการสอบวินัย เจรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของโจทก์ มีความเห็นว่า โจทก์เข้าไปก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้าย โดยอ้างว่า ชุดทำคดีไม่มีผลงาน ทั้งที่ช่วงปี 2561-2566 ชึดสืบสวนดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ กว่า 100 ราย ยึดทรัพย์ได้มากกว่า 2,000 ล้านและยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เรื่องยาเวพติด เป็นเรื่องที่สร้าฃความเสียหาย ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก การที่ชุดสืบสวน ขยายผลไปจนผู้ต้องหาเพิ่ม เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต จนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้ บช.ปส. เป็นการทุ่มเททำงานเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นตำรวจที่ดี

อีกทั้งจำเลยที่ทำองค์กรเพื่อปกป้องคนดี เชื่อโดยสุจริตใจ ว่า โจทก์แต่งตั้งโยกย้ายชุดทำงาน ออกนอกหน่วยโดยไม่สมัครใจ เพราะไม่ทำตามคำสั่งเรื่องคดีนายอุปกิต การกระทำของจำเลยเป็นการทำโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่มีความผิด

พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีที่พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ยื่นฟ้องตนเองนั้น ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่า ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และตามคำพิพากษาศาลก็สามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่ามีการแทรกแซงการทำหน้าที่ของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ พนักงานสอบสวนกับพวกตำรวจชุดสอบสวน และมีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ดังนั้นที่มาฟ้องตนเองว่าแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น ศาลเห็นว่าการทำหน้าที่ของตนเองนั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

นายอัจฉริยะ กล่าวถึงคดีที่สอง ว่า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค1 จังหวัดนนทบุรี จำนวน 27 คน แจ้งความหมิ่นประมาทนั้น ศาลอาญาก็มีคำพิพากษาว่าเป็นการใช้สิทธิ์โดยสุจริตและเป็นประโยชน์สาธารณะ ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจ 4-5 ประเด็น ประเด็นแรก ศาลเห็นว่าบาดแผลตามร่างกายแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ที่เป็นหัวใจสำคัญของคดีแตงโม เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าบาดแผลของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ประเด็นที่สอง ขณะเกิดเหตุแตงโมไม่ได้ไปปัสสาวะที่บริเวณท้ายเรือ ทำให้สิ่งที่แซมพูดกับพนักงานสอบสวนจึงคาดว่าไม่เป็นจริง ขณะที่มีการแก้ไขจีพีเอส เพื่อให้สองคล้องกับผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งนี้ประมาณ 10 วันก็จะมีการเผยแพร่คำพิพากษาได้

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณองค์คณะผู้พิพากษา ที่ให้ความเป็นธรรม ตนเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมของศาลได้ให้ความเป็นธรรมกับตนเองมาโดยตลอด และวันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าตนเองทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และจะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการทุกหน่วยงานต่อไป ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก่อนเข้าฟังคำพิพากษาตนยืนยันว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะคดี ก็จะต้องสู้คดีกันต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกา แต่อย่างน้อยคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่มีคนทั่วประเทศด่าตนเองนั้น ก็อยากจะบอกคนไทยและทั่วโลกว่า วันนี้น้องแตงโมได้รับความเป็นธรรมแล้ว คือน้องแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ ไม่ได้เกิดบาดแผลจากใบพัดเรือ และมีตำรวจเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาบนเรือ วันนี้ตนดีใจที่สามารถทำให้ศาลมีคำพิพากษาว่า คดีแตงโมไม่ได้เกิดจากความประมาท ทำให้เชื่อว่าอาจจะเกิดจากการฆาตกรรมก็ได้ จึงอยากจะฝากพี่น้องคนไทยทั่วประเทศว่า ตนเองได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ทำเพื่อน้องแตงโม ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก แต่วันนี้ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาแล้ว ก็ถือว่าพวกผมได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับน้องแตงโม ที่พี่น้องประชาชนเชื่อเหมือนตนเอง ว่าคดีของน้องแตงโมมีพิรุธสงสัย และเจ้าหน้าที่มีการเอื้อผลประโยชน์คนบนเรือ

หลังจากนี้ตนเองจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจนนทบุรีที่แจ้งความตนเองในข้อหาแจ้งความเท็จด้วยและเรียกค่าเสียหาย 27 ล้าน ศาลมองว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานนั้น อัยการก็มีคำสั่งถึงที่สุดไม่ฟ้องตนเองแล้ว ดังนั้นตนเองจะต้องเอากลับ 10 เท่า นอกจากนี้ยังมีอีก 4-5 คดี ในเรื่องเดียวกัน เห็นว่าเมื่อสำนวนคดีแรก ศาลพิพากษายกฟ้องแล้วคดีอื่นก็น่าจะเป็นไปแนวทางเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวสั้นๆว่า ในวันนี้เป็นเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งคงต้องให้ทางทนายความ ที่จะดูข้อกฎหมายข้อเท็จจริงในการยื่นอุทธรณ์ต่อไป ตนก็ยังมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมก็คงต้องรอดูต่อไปแต่ในความเชื่อของตนจำเลยจะต้องได้รับ ผลจากสิ่งที่กระทำในอนาคต เพราะยังมีข้อเท็จจริงและความเห็นบางอย่างที่ยังไม่ตรงกัน

ด้านทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดตอนนี้อยู่ในสำนวนของศาลแล้ว และเรามีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานแวดล้อมที่ปรากฏ ในขั้นต่อไปเราก็จะขอคัดถ่ายเอกสารคำพิพากษา ยืนยันว่ามั่นใจในชุดพยานหลักฐานเก่า ที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน

ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ

‘เหลิม’ เรียก 30 ล้านฟ้อง ‘สนธิ’ หมิ่นประมาทให้ 500 ล้านเล่นการเมือง-Yes, No, Ok, Coca Cola

นายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “จัดไปครับพ่อ” ปล.คุณสนธิต้องเลิกทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาลได้แล้วฮะ แถวบางบอนเรียก