รองนายกฯ ตั้ง คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เทวดา สคบ. ขีดเส้นสรุปผลใน 30 วัน

16 ต.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์

เนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ และรายการโหนกระแส ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยที่วีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงบันทึกการสนทนามีเนื้อหาทำให้เข้าใจได้ว่ามีผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์รายหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องที่ถูกร้องเรียน ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอันจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และ มาตรา 11 (6)แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 313/2567 เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 กันยายน 2567 ข้อ 6 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์

ประกอบด้วย 1.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโสเป็นประธานกรรมการ 2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรรมการ 3.นายนิรันด์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กรรมการ 4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) กรรมการ 5.พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรรมการ 6.นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ 7.นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) กรรมการ 8.นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการ

โดยมีหน้าที่ และอำนาจ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้ 1. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริงและมีอำนาจเรียกเอกสารใด ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานใด ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุโพร) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็นรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง)อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร

2.คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ 3.ให้คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุม และค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี 4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยคณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มทำงานทันที มีกำหนดการนัดหมายประชุมนัดแรกในวันที่ 17ต.ค. ที่ สคบ. ในเวลา 13.30 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ประเสริฐ' เผย ครม.เห็นชอบ 'ดีอี-มท.-กฤษฎีกา' เร่งกฎหมายรับพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ใน 1 เดือน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย

'จิราพร' สั่ง สคบ. สอบข้อเท็จจริง 2 บริษัทมือถือตั้งแอปฯเงินกู้ ให้ชี้แจงด่วนพรุ่งนี้

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO และ Realme หลายราย พบว่ามีแอปพลิเคชันกู้เงินที่มีชื่อ

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 4

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) จัดกิจกรรม "การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ครั้งที่ 4"

'ประเสริฐ' รับเพื่อไทยยังไม่มีผู้สมัครนายก อบจ.โคราช หลัง 'ยลดา' เมียกำนันป้อ ประกาศลงอิสระ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมาที่ลาออกไป