'กัญจนา' เผยบ้านใหม่พลายขุนเดช-ดอกแก้ว แจงภาพช้างผอมถูก NGO บิดเบือน

10 ต.ค.2567 - จากกรณี นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “มีช้างตัวผู้สองเชือก ชื่อพลายขุนเดช และ พลายดอกแก้ว ที่ คุณหนูนา เอามาฝากทางเราเลี้ยงไว้หลายปี ถ้าคุณหนูนาสงสารและเป็นห่วงเขาจริงๆ ขอช่วยมาย้ายพวกเขาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยด่วนค่ะ”

ต่อมา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ว่าด้วยช้าง 2 เชือกที่เกี่ยวพันกับดิฉัน..ที่อยู่ที่ปางคุณเล็ก..เชือกแรก..ขุนเดช.. น้องเป็นช้างป่า..ที่ถูกบ่วงแร้วนายพรานรัดข้อจนเป็นแผลใหญ่บวม… ทำให้เดินไม่ปกติ..

ดิฉันไปเจอน้องเมื่อปี 2557 ที่ส่วนสัตว์ป่า ม. เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน .. น้องถูกเลี้ยงอยู่เชือกเดียวน่าสงสารมาก…ช่วงนั้นเป็นปีแรกที่ดิฉันได้รู้จักคุณเล็ก และชื่นชมคุณเล็กมาก ..ดิฉันวิ่งเต้นทำเรื่องขออธิบดีอุทยานพาขุนเดชไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก .. จนสำเร็จ..

ตอนที่แรกเจอขุนเดช อายุประมาณ 4 ขวบตอนนี้น้องก็คง 14 แล้ว …เชือกที่ 2 .. ดอกแก้ว..ดิฉันเจอดอกแก้วที่โรงพยาบาลช้างคชบาล ลำปาง ..น้องมากับแม่ แม่น้องป่วยหนักคือเหมือนมดลูกหลุดจากช่องคลอดมาครึ่งหนึ่ง ถ้าดิฉันจำไม่ผิด…ดอกแก้วตอนนั้นอายุสองเดือนคลอเคลียอยู่กับแม่ตลอด..

ดิฉันพูดกับแม่โม่ดิพอ แม่ของดอกแก้วว่าอยู่กับลูกนะอย่าทิ้งลูกไป…พอดีฉันกลับจากลำปางได้สามวันหมอก็โทรมาแจ้งว่าแม่ล้มแล้ว..ดิฉันสงสารดอกแก้วมากกลัวเจ้าของจะเอาไปขายที่ไม่เหมาะสมจึงขอซื้อมาตอนนั้นราคา 850,000 (ถ้าตอนนี้คงเป็นล้าน)..

ช่วงปีแรกทางคชบาลเลี้ยงน้อง.. หาแม่รับคือแม่สิงขรให้..แต่ภายหลังมีข่าวว่าแม่สิงขรอาจจะท้องและคงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูกรับ…ดิฉันจึงประสานขอคุณเล็กรับดอกแก้วไปเลี้ยงให้ด้วย… ซึ่งเธอก็ยินดี…

ดิฉันต้องขอบคุณคุณเล็กมากที่ตลอดเวลาได้เลี้ยงดูขุนเดชและดอกแก้วให้…แต่ดิฉันก็ไม่ได้ไปฝากเฉยๆ ..ในช่วงปีแรกที่ดิฉันไปหาคุณเล็กบ่อยๆนั้น ดิฉันได้สนับสนุนคุณเล็กอย่างที่ในชีวิต แม้จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยให้ใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักคุณเล็กมาก…

ดิฉันต้องขอบคุณเล็กอีกครั้ง สำหรับการดูแลขุนเดชและดอกแก้ว คุณเล็กให้ไปรับโดยเร็ว..ดิฉันกำลังจะไปรับทั้งคู่มานะคะ

ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าทุกอย่างที่ดิฉันทำเพื่อช้าง ไม่มีธุรกิจใดเกี่ยวกับช้าง ไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ ไม่เคยได้เงินจากช้างเลยค่ะ …เกิดแต่รักล้วนๆ…

น.ส.กัญจนา ยังได้เปิดเผยถึงการเคลื่อนย้าย พลายดอกแก้ว ช้างกำพร้าที่แม่ล้มตั้งแต่เด็ก และพลายขุนเดช ซึ่งเหยียบบ่วงนายพราน ทำให้ขาพิการมานาน 10 ปีว่า ทีมร่มแดนช้าง.. นำโดยคุณภัทร ทีมปางช้างแม่แตง..ทีมคุณหมอคชบาล..กำลังไปรับน้องดอกแก้วและน้องขุนเดช อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านมากเลยนะคะ ..

น้องทั้งสองเชือกจะไปอยู่ที่ร่มแดนช้างของคุณภัทรก่อนนะคะ น้องดอกแก้วจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ส่วนน้องขุนเดช เป็นช้างของกรมอุทยานฯ เมื่อเดินเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้วจะไปอยู่ที่คชบาล ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะหมอต้องดูแลรักษาขาน้องค่ะ

เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพราะมีคนเอาภาพมาเปรียบเทียบสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับน้องขุนเดช…ภาพแรกคือน้องขุนเดชตอนที่ชาวบ้านพบแล้วแจ้งกรมอุทยาน .. จากนั้นกรมอุทยานจึงนำน้องมารักษาตัวที่ส่วนสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน…น้องอยู่ที่นี่ราว 3 ปี

ภาพที่สองคือน้องฟื้นตัวแล้วและเป็นตอนที่ดิฉันไปเจอขุนเดชที่กำแพงแสนค่ะ..ก่อนที่จะไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก …เพราะกำลังมีคนเอาไปเปรียบเทียบว่า..ก่อนไปอยู่ปางคุณเล็กนั้นเป็นรูปแรก…ไม่ใช่นะคะเป็นรูปที่สองค่ะ …

ขอคนที่ทำอย่างนี้กรุณาอย่าบิดเบือน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือด! 'หนูนา' ซัดคนใจมืดบอดเอาเรื่องความอยู่รอดของ 'น้องกันยา' มาโจมตี ขู่ฟ้องพรบ.คอมพ์

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ "หนูนา" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า

'หนูนา-กัญจนา' ตกลงไถ่ 'พรายประกายแก้ว' ไปไว้ที่ 'ร่มแดนช้าง' พ้นชีวิตทำงานหนัก

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ "หนูนา" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า

สหพันธ์ช้างไทย พร้อมคนตระกูล 'ชัยเลิศ' ยื่น กมธ. สอบปางช้าง 'ป้าแสงเดือน'

ตัวแทนสมาคมสหพันธ์ช้างไทย นำโดยนางวาสนา ทองสุข ชัยเลิศ กรรมการบริหารปางช้างแม่แตง พ.อ.ปณต เขตต์สันเทียะ ทีมกฎหมาย พร้อมสมาชิก ยื่นหนังสือต่อนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล

แฉต่อ! กฎแห่งกรรมวันที่ภัยธรรมชาติมาถึง 'นาง' แดดิ้นด้วยแรงริษยา แต่กลับเปิดโปงทุกอย่างที่ซุกไว้ไต้พรม

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tong Kaewtrakulpong โพสต์กรณีน้ำท่วมปางช้างเชียงใหม่เป็นตอนที่ 2 ระบุข้อความว่า ตอนที่ 2 : ผิดหวัง ผิดคาด…

ดิจิทัล วอร์รูม เตือนภัยฝ่าน้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม

ภาคเหนือเผชิญอุทกภัยรุนแรง โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย น้ำท่วมตัวเมือง มีน้ำป่าไหลทะลักลงตามแม่น้ำสาย ทำให้บ้านเรือน ร้านค้า ตลาดสด พื้นที่เกษตรที่ติดลำน้ำสายได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปัจจุบันแม้น้ำแห้งแล้วแต่ประชาชนยังจมโคลนจมฝุ่นต้องการการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาจากปัญหาที่น้ำท่วมได้ทิ้งไว้ตามบ้านเรือนของประชาชนและสถานที่ต่างๆ