ยื่น 8 ข้อเสนอให้นายกฯ เร่งฟื้นฟูเมืองเชียงราย แนะตั้งศูนย์บัญชาการร่วมภาครัฐ-เอกชน ออกมาตรการงดภาษี-งดจ่ายเงินสมทบประกันสังคม-ประสานเพื่อนบ้านแก้ปัญหาภัยพิบัติข้ามแดน
27 ก.ย.2567 - ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงราย โดยได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบที่โรงเรียนเทศบาล 6 อ.เมือง จ.เชียงราย นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิพัฒนาชุมชนในเขตภูเขา(พชภ.) พร้อมทั้งตัวแทนภาคธุรกิจ นักวิชาการและภาคประชาชน ได้ยื่นหนังสือสรุปข้อเสนอแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำหลากเมืองเชียงราย
ทั้งนี้ในหนังสือที่ยื่นให้นายกรัฐมนตรีมีเนื้อหาว่า จากการหารือขององค์กรภาคประชาสังคม ชุมชน นักวิชาการ ภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบบางส่วน มีข้อเสนอเบื้องต้นต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)
“เหตุการณ์ภัยน้ำหลากถล่มเมืองเชียงราย เมื่อเดือนกันยายน 2567 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แบบสุดขั้ว (extreme weather) กลายเป็นหายนะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน น้ำกกไหลบ่าเข้าสู่บ้านเรือนในชั่วเวลาอันสั้น ประชาชนไม่มีเวลาได้เตรียมตัว เมื่อน้ำลดลง ทิ้งไว้คือโคลนและเศษซากปรักหักพัง เปรียบเสมือนสึนามิน้ำจืด สื่อมวลชนบางสำนักข่าวเรียกว่าสึนามิโคลน ซึ่งเป็นความเสียหายที่แสดงให้เห็นถึงภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการดำเนินการทั้งเรื่องป้องกัน เยียวยาและฟื้นฟูจึงไม่สามารถใช้แนวทางเดิมเช่นเดียวกับปัญหาน้ำท่วมทั่วไปแบบที่ผ่านมาได้” ข้อความในหนังสือระบุ
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า ในการประชุมของภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย 2 ครั้งได้ข้อสรุปและข้อเสนอในเบื้อต้นต่อรัฐบาลดังนี้ 1.ภาคเอกชนเสนอให้ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นวันเปิดเมืองเชียงราย โดยกว่า 1 เดือนที่เหลือให้ใช้เร่งเก็บขยะ-โคลน และเศษซากความเสียหายต่างๆออกให้แล้วเสร็จ และเริ่มต้นฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย 2.ออกมาตรการในการฟื้นฟูภาคธุรกิจและเอกชน ทั้งรายใหญ่และรายย่อย เช่น ด้านภาษี สินเชื่อ การยกเว้นจ่ายเงินสมทบประกันสังคม ทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง นอกจากนี้ควรมีมาตรการการดูแลลูกจ้างทั้งแรงงานชาวไทยและแรงงานข้ามชาติซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูและพลิกฟื้นเศรษฐกิจของเมืองเชียงราย
3.จัดตั้งศูนย์บัญชาการการฟื้นฟูในพื้นที่อย่างเร่งด่วน จัดการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชาวเชียงรายทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ภาคเอกชน ประชาสังคม สร้างการสื่อสารระหว่างศูนย์แห่งนี้และชาวเชียงราย โดยมีการรายงานความคืบหน้าการฟื้นฟู เยียวยาทั้งภาพรวมของการปฏิบัติการ และรายพื้นที่ มีระบบ Data Center- One Chiang Rai
4.กำหนดให้เชียงรายเป็นจังหวัดต้นแบบของการรับมือภัยพิบัติ ที่จะมีการติดตามการเกิดภัยตลอดทั้งปี โดยเป็นศูนย์เรียนรู้ทั้งภายในประเทศ และ ภัยพิบัติข้ามพรมแดน โดยจังหวัดต้องทำแผนที่เสี่ยงภัยทุกชนิดในพื้นที่ ทั้งน้ำหลาก ดินถล่ม ฯลฯ และมีการวางแผนตลอดทั้งปี และมีศูนย์เตือนภัยระดับ ชุมชน (Buttom Up) และมีการเตรียมความพร้อมของชุมชน
5.รัฐต้องประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการร่วมแก้ปัญหาภัยข้ามพรมแดน 6.จัดทำระบบเตือนภัยล่วงหน้า real-time แจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือและช่องทางอื่น ใช้ภาษาและรูปแบบที่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าใจได้ง่าย 7.มีมาตรการฟื้นฟูผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูอาชีพ มีข้อมูลการให้ความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ซ้ำซ้อน
8.จัดทำแผนจัดการเมืองเชียงรายในระยะกลาง ผังเมืองการใช้พื้นที่ zoning พื้นที่รับน้ำ พื้นที่เสี่ยงภัย และกำหนดแบบแปลนสิ่งก่อสร้างที่เหมาะสมสอดคล้องกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อีก
นางเตือนใจ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการยื่นหนังสือว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี นายกฯ ได้รับหนังสือแล้วแต่ยังไม่ได้หารือกันเนื่องจากนายกฯ ต้องรีบไปมอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังได้พูดคุยสั้นๆ กับนายภูมิธรรมไว้แล้วโดยจะมีการประสานงานกันต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝ่ายแค้นจืดหยันเหยาะน้ำปลา
"อิ๊งค์" ยันแจงซักฟอกตรงประเด็น บอกพูดยาวไม่เป็น ชี้พรรครัฐบาลเข้มแข็ง
‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!
ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน
‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอก‘นายกฯอิ๊งค์’ ขยายแผล ปูทาง ยื่น 'ป.ป.ช.'
เปิดฉากกันไปแล้ว ศึกซักฟอก อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดีลแลกประเทศ’ วันแรก ไฮไลต์สำคัญ ช่วงเช้าหนีไม่พ้นการเปิดหัวของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และการลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ทุบ 'นายกฯอิ๊งค์' ขาดภาวะผู้นำแก้ฝุ่น PM 2.5 รัฐมนตรีไม่เห็นค่า หน่วยงานไม่เห็นหัว
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปี 2567 เป็นปีที่ประเทศของเราต้องเจอกับภัยพิบัติที่รุนแรง เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภัยแล้ง และฝุ่นพิษ แต่ภัยพิบัติหนักที่สุดที่ประเทศไทยต้องเจอ คือการมีนายกรัฐมนตรี
ชำแหละ 'อิ๊งค์' ใช้อำนาจนายกฯ ฮุบที่ดิน 'อัลไพน์' ซูเอี๋ย 'เขากระโดง'
'จุลพงศ์' ซัด 'แพทองธาร' ใช้อำนาจนายกฯ หวังฮุบที่ดินอัลไพน์ รู้เห็นเป็นใจที่ดินเขากระโดง ชี้แค่ละครแบ่งผลประโยชน์ กับ 'ภูมิใจไทย'