'ภูมิธรรม' เผยนายกฯ-รมต. กระจายลงพื้นที่น้ำท่วมจุดวิกฤติพรุ่งนี้ จ่อสรุปเกณฑ์เยียวยาเพิ่ม

“ภูมิธรรม​” ประชุมศปช.เตรียมการก่อน​นายกฯ นำรมต.ลงพื้นที่เชียงใหม่-เชียงรายพรุ่งนี้​ ย้ำ​ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่แล้ว​ บอกไม่ได้ดูแคลนภาคอีสาน​ แต่เป็นน้ำหลากต้องเร่งแก้ปัญหาพื้นที่วิกฤต

26 ก.ย.2567 - เมื่อเวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่​ และเชียงราย​ ก่อนการประชุม​ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม​ (​ศปช.) ว่า​ ขอให้รอรายละเอียดในที่ประชุมศปช.ก่อน​ ซึ่งจะมีรายละเอียดเรื่องของหลักเกณฑ์การเยียวยาเพิ่มที่มอบหมายให้​สภาพัฒนา​เศรษฐกิจ​​และ​สังคม​แห่งชาติ​ สำนักงบประมาณ​ และคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาร่วมกัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จะกระจายลงพื้นที่ทั้งจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยจะเป็นการแยกไปดูในจุดวิกฤต

นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ ในพื้นที่ภาคอีสานไม่ใช่ว่าดูแคลน​หรือไม่เหลียวแล แต่เป็นเรื่องของน้ำหลาก​ ก็จะมีความเสียหายในระดับหนึ่ง แต่จุดที่วิกฤตคืออำเภอแม่สาย​ และอำเภอเมือง​ จังหวัดเชียงราย​ เนื่องจากมีเรื่องโคลนที่ตกค้างในบ้านเรือนสูงเฉลี่ย​ 1-12 เมตร​ และต้องใช้คนทำความสะอาดเฉลี่ยแล้ว 1 หลัง 30 คน ต่อ 1 วัน พร้อมระบุว่าขอให้คิดดูว่าจะต้องทำงานหนักขนาดไหนดังนั้นจึงต้องใช้ ทั้งนักโทษชั้นดี​ จากกรมราชทัณฑ์ อาสาสมัคร ทหาร พร้อมย้ำว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อยู่ในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว และแยกกันทำหน้าที่ โดยการประชุมศปช.ในวันนี้จะเป็นการเตรียมการก่อนการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงรายในวันที่ 27 ก.ย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้

‘ภูมิธรรม’ มั่นใจนายกฯกลับมาประชุมตั้ง ‘เจทีซี’ เสร็จ ชงเข้าครม.19 พ.ย.ทันที

‘ภูมิธรรม’ ระบุ หากนายกฯกลับมา เรียกถก ตั้ง เจทีซี วันนี้ก็ เข้าครม.ทันพรุ่งนี้ โยน กต.เคาะรายชื่อ ลั่น เกาะกูดไม่จบซํ้ารอยเขาพระวิหารแน่ ยัน ไม่มีเหตุผลต้องยกเลิกเอ็มโอยู 44