ปภ.ระดมทีมปฏิบัติการ-เครื่องมืออุปกรณ์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำริมโขง

14 ก.ย.2567 - นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่าปริมาณฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อาจส่งผลให้ช่วงวันที่ 13 - 16 กันยายน 2567 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงอาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ห่วงใยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ได้สั่งกำชับให้ ปภ. เตรียมรับมือสถานการณ์โดยเร่งด่วน ซึ่งวันนี้(13 ก.ย.)ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 4 จังหวัดริมแม่น้ำโขง (หนองคาย นครพนม เลย บึงกาฬ) ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. รวมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) นำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำการในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมแล้ว

นอกจากนี้ จังหวัด อำเภอ องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร อาสาสมัครมูลนิธิ อาสารักษาดินแดน (อส.) หน่วยงานราชทัณฑ์ ก็ได้เตรียมความรับมือสถานการณ์โดยมีการระดมกำลังพลและเครื่องมืออุปกรณ์ รถบรรทุก เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน กระสอบทราย เพื่อเตรียมพร้อมรองรับน้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่แล้ว

“ขณะนี้ ศูนย์ ปภ. เขต 7 สกลนคร เขต 14 อุดรธานี และ ปภ. จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ. ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ในเบื้องต้นจังหวัดได้บูรณาการเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ ทั้งเครื่องสูบน้ำ 43 เครื่อง รถบรรทุก 4 คัน เรือท้องแบบ 16 ลำ กระสอบทราย 16,000 ถุง และกำลังพลรวมกว่า 85 นาย เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบสถานการณ์น้ำโขงที่อาจเกิดขึ้น โดย ปภ. ได้สแตนบายด์เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เพื่อเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานเพิ่มเติมไว้แล้ว” อธิบดี ปภ. กล่าว

ทั้งนี้ ปภ. ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และวัสดุอุปกรณ์พร้อมออกช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ได้ประสานจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ สถานการณ์น้ำ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในระยะนี้ ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิรายุ' เผยนายกฯกำชับให้เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมเป็นรายชั่วโมง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งนายกฯกำชับกระทรวงต่างๆ ให้ดูว่าสัปดาห์ และสัปดาห์ถัดไป

ครม.ไฟเขียวงบกลาง 3 พันล้าน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม นายกฯกำชับลดขั้นตอน ให้เงินถึงมือปชช.เร็วที่สุด

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในที่ประชุมครม. เห็นตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 และขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบประจำปี 2567 งบ

AIS และ กสทช. ร่วมส่งกำลังใจ พร้อมดูแลเครือข่ายและเน็ตบ้านในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย หนองคายและภาคอีสานเต็มที่ในทุกมิติ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง

จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง และปริมาณแม่น้ำโขงหนุนสูง ล้นตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วม ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ในหลายอำเภอของจังหวัดหนองคาย

ระดม สห. เฝ้าบ้านเรือน- ทรัพย์สิน ประชาชน ระหว่างฟื้นฟูหลังอุทกภัย ที่แม่สาย

กองทัพบก เผยแพร่ภาพและข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะใน อ.แม่สายว่า กองทัพบกยังคงร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ดำเนินการช่วยเหลือประ

เข้าไทยเต็มๆ! กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 1 'พายุดีเปรสชัน' ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนที่มีแนวโน้มจะกระทบต่อประเทศไทย ล่าสุดพายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนและจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน