11 ก.ย.2567 - พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัด เชียงราย ส่งผลให้มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ หน่วยเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำกองทัพเรือ จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ให้การสนับสนุนทางจังหวัดเชียงราย ในการจัดเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 ลำพร้อมกำลังพล อุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ไปติดตั้งในพื้นที่อำเภอที่แม่น้ำอิงไหลผ่าน ประกอบด้วย อำเภอป่าแดด อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอเชียง จังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำโขงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พร้อมทั้งให้กองเรือยุทธการ จัดชุดปฏิบัติการจาก หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (หรือมนุษย์กบ) และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จัดยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก(AAV) ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทั้งการลำเลียงประชาชน และทรัพย์สิน ออกจากพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่เสี่ยง
โดยใน ช่วงบ่ายวันนี้ (11 กันยายน 2567 ) กำลังพลชุดแรกจาก จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ประกอบด้วย ชุดควบคุมและสนับสนุนและชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องแข็งและเรือยางยุทธวิธี ได้ถูกลำเลียงโดยเครื่องบินลำเลียงแบบ C - 130 ของกองทัพอากาศ ออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาไปยัง จังหวัดเชียงราย แล้ว
นอกจากนั้น ยังได้มีการสั่งการให้ หน่วยต่างๆดำเนินการตามสั่งการดังนี้
- ให้ ฐานทัพเรือกรุงเทพและกรมการขนส่งทหารเรือ จัดหน่วยเคลื่อนที่ ทั้งรถบรรทุก เรือท้องแบนที่มีอยู่ทั้งหมด ขึ้นไปช่วยเหลือ โดยให้ออกเดินทางภายในวันนี้ (11 ก.ย.67)
- ให้ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เป็นผู้รับผิดชอบ การปฏิบัติในพื้นที่ จังหวัด เชียงรายทั้งหมด
- ให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ รวมถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ (หน่วยซีล) ให้การสนับสนุนตามที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ร้องขอ
- ให้ฐานทัพเรือกรุงเทพ จัดถุงยังชีพ สำหรับ แจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด
นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ยังได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเชิงรุกทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวยังพัดแรง ใต้มีฝนเพิ่มตกหนักบางแห่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 13 - 27 ม.ค. 68
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 11 เตือนหนาวจัดลมแรง ทะเลคลื่นสูง 4 เมตร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน
อุตุฯ เตือนอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลงอีก ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดแรง ยาวถึงปลายเดือน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10 - 24 ม.ค. 68
ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับ 5 อากาศหนาวลดฮวบ 3-7 องศา คลื่นลมแรงสูง 4 เมตร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 5
อุตุฯ เตือนมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ปกคลุม อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว