“สุทิน” สั่งทัพเรือเร่งผลักดันน้ำเหนือออกอ่าวไทย หวั่นซ้ำรอย น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 2554 คาดอาจกระทบขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ปลายตุลาคมนี้ หากฝนตกเพิ่ม
27 ส.ค.2567 - นายสุทิน คลังแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังการประชุมสั่งการเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย และเหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ กระทรวงกลาโหม ว่าวันนี้ กระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพไทย และ กองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งทุกมณฑลทหารบกในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ด้วย ซึ่งได้มีการรายงานสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยรวมเป็นที่น่าพอใจ แต่มีเรื่องหนึ่งที่คิดว่าจะต้องเร่งทำเพิ่ม คือการเร่งผลักดันน้ำเหนือที่ลงมาตามลำน้ำเจ้าพระยา โดยกองทัพเรือซึ่งมีความพร้อมในยุทโธปกรณ์ด้านนี้ จะต้องเร่งผลักดันน้ำออกสู่อ่าวไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งในปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่นั้น เกิดจากการที่ผลักดันน้ำออกทะเลไม่ได้และไม่ทัน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้กองทัพเรือเตรียมพร้อมในการผลักดันน้ำโดยเร็วที่สุด จะทำให้ปัญหาและความน่าหนักใจในพื้นที่กรุงเทพมหานครเบาบางลง กว่าปี 2554
ทั้งนี้ กองทัพเรือได้รายงานในที่ประชุม ถึงการสำรวจจุดล่อแหลมและจุดเสี่ยงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อาจเกิดคันกั้นน้ำพัง ซึ่งมีหลายจุดที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงอยู่มาก โดยขอให้ทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบนอกเหนือจากกองทัพเรือ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ให้รีบเข้าไปช่วยดำเนินการ
นายสุทินยังกล่าวว่า ตนได้สั่งการในที่ประชุมด้วยว่า แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่เกิดปัญหาอุทกภัย ก็ให้มีการเตรียมการรับมือ เช่น ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 4 ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจจะต้องเตรียมการรับมือล่วงหน้าประมาณ 1 - 2 เดือน โดยได้กำชับว่าให้ทุกหน่วยทำวันนี้ให้ดีที่สุด
นายสุทินกล่าวว่า จากการติดตามพยากรณ์อากาศในอีก 1 เดือนข้างหน้า พบว่าอาจมีมรสุมตามมาอีก ซึ่งจะพาดผ่านระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ และจะทำให้ทั้งสองพื้นที่นี้ได้รับผลกระทบ และทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่มีนายกรัฐมนตรีหญิง ทั้งสองคนนั้น นายสุทินหัวเราะ ก่อนที่จะกล่าวว่าเป็นเรื่องบังเอิญเฉย ๆ และย้ำว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ จะไม่น่าเป็นห่วง หากกองทัพเรือสามารถดำเนินการผลักดันน้ำตามที่ได้สั่งการไว้ ในขณะเดียวกันหน่วยงานอื่นก็จะต้องมาช่วยดำเนินการกำจัดผักตบชวาที่กีดขวางลำน้ำ ทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองสายเล็กสายน้อยออกให้หมดด้วย เพื่อให้น้ำสามารถไหลไปได้เร็วและไม่ท่วม
ส่วนข้อห่วงใยที่ชาวบ้านขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดนั้น นายสุทิน ระบุว่าได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า ซึ่งรัฐบาลมีความพร้อม และสำนักงบประมาณก็ยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมา อาจส่งผลกระทบต่อการเสด็จพระราชดำเนินขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในเดือนตุลาคมนี้หรือไม่ นายสุทิน ระบุว่ายังไม่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมฯ ของเหล่าทัพ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบบ้าง แต่หากเร่งผลักดันน้ำออกให้เร็วที่สุด ก็น่าจะช่วยได้ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่จะตกลงมาหลังจากนี้ว่ามีมากน้อยเพียงใด ถ้าดูจากปริมาณฝนที่ตกในวันนี้พบว่ายังไม่น่าห่วง แต่ถ้าหลังจากนี้ฝนตกลงมาในปริมาณที่มาก และเกินความคาดหมายก็อาจจะลำบาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทภ.1 แจ้ง 'พลทหารนิธิกร' ไม่ได้เสียชีวิต
กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า พลทหาร
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น
สันติภาพต้องหยุดยิงจริง! ทอ.โจมตีเชิงลึก 'คลังอาวุธ' พระตะบอง หลังกัมพูชากระหน่ำยิงพลเรือนไทย
ทอ. โจมตีเชิงลึก “คลังอาวุธ” ในพระตะบอง เพื่อปกป้องชีวิตคนไทย หลังกัมพูชากระหน่ำยิงเข้าพื้นที่พลเรือนในสระแก้ว ย้ำภารกิจในพื้นที่”สีส้ม-สีแดง “จวก “กัมพูชา” ยังไม่แสดงความจริงใจต่อคำว่าหยุดยิง ระบุสันติภาพมาพร้อมกับความจริงใจ
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ

