ทลายเครือข่ายยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนนายกฯลงพื้นที่

2 ส.ค.2567 - ที่อาคารกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมแถลงการณ์การจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตำรวจตรี นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นาย วันชัย เพชรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และนายจุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ

โดยส่วนสืบสวนสอบสวน กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 ทำการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนสามารถจับกุมค้ายาเสพติดรายสำคัญจำนวน 2 เครือข่าย ผู้ต้องหา 9 คน ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 441,760 เม็ด ไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม และทำการตรวจยึดทรัพย์เบื้องต้นรวม 15 รายการมูลค่าประมาณ 20,614,000 บาท สามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีได้ให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของจังหวัด โดยในส่วนของฝ่ายปกครองจะเจ้มงวดในมาตรการป้องกันยาเสพติดทุกรูปแบบที่จะไม่ให้มียาเสพติดได้ระบาดเข้ามาในพื้นที่ ไม่ว่าการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ในตำบลหมู่บ้าน ได้สร้างเครือข่ายเป็นตราสับปะรดช่วยกันเฝ้าระวัง นำมาซึ่งการจับกุมครั้งนี้

ด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ระบุว่า สำหรับนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นวาระของชาติ และก็ได้นำเรียนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งใหม่แล้วว่า ผมได้ให้ความสำคัญกับยาเสพติดเป็นลำดับแรก เพราะปัจจุบันยาเสพติดได้ระบาดเข้ามาสู่ทุกชุมชน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือส่วนต่างๆ โดยได้นำนโยบายมาดำเนินการเกี่ยวกับผู้ค้าหลักๆ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่ไปจนถึงรายย่อย และได้มอบนโยบายให้กับกำลังพลเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในการหาข่าวข้อมูลเชิงลึก ที่จะสามารถดำเนินการสกัดกั้น และขยายผลได้

“ในภาพรวม 14 จังหวัดภาคใต้ที่รับผิดชอบนั้น มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตลอดทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง หลายเส้นทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะคุมให้ได้ทุกพื้นที่ ทุกด่านตรวจ จุดตรวจ ก็เข้มข้นตรวจตรามาตลอด ควบคู่กับทั้งติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวของยาเสพติดในทุกประเภทที่ลงมาเข้าสู่พื้นที่ภาคใต้เพราะเป็นทางผ่านออกไปสู่ประเทศที่สามก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางทะเล เรามีการวางแผนดำเนินการจับกุมและติดตามอย่างต่อเนื่อง จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ทอดทิ้ง เราดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดวงจรไม่ให้ยาเสพติดขยายลงสู่ชุมชนต่อไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 ส.ค.นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสและด่านรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย ร่วมกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ร่วมคณะไปด้วย
สำหรับกำหนดการประกอบไปด้วย การลงพื้นที่ตรวจด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในเวลา 11.00 น. หารือข้อราชการร่วมกัน ที่ห้องทำงานชั้น 2 ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยนายเศรษฐา และนายอันวาร์ รับฟังบรรยายสรุปโครงการยกระดับสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ที่สะพานไหงโก-ลก -รันเตาปันยัง จากนั้นนายเศรษฐา และนายอันวาร์ เดินทางไปยังด่านรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย โดยเมื่อเดินทางถึงจะถ่ายภาพร่วมกัน และเดินทางไปยัง Pasir Mas District and Land Office เพื่อหารือข้อราชการร่วมกัน ต่อมาเวลา 12.50 น. นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ก่อนที่นายเศรษฐาและคณะ จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย ถึงกรุงเทพฯในเวลา 16.30 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวเบตง-มาเลย์ ประสานสามัคคี วิ่งสู้มะเร็งซื้ออุปกรณ์การแพทย์

ชาวอำเภอเบตง นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ร่วมกิจกรรมวิ่งสู้มะเร็ง นำรายได้จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โรงพยาบาลเบตง

คุมตัวผู้ต้องสงสัย เหตุคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจบันนังสตา เค้นข้อมูล

ความคืบหน้าเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) บริเวณหน้าแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา

เปิดศูนย์เยียวยาเหยื่อคาร์บอม ครู-ผู้บาดเจ็บ 34 ราย

“ทวี” ลงพื้นที่จุดคาร์บอม หน้าโรงพักบันนังสตา เปิดศูนย์เยียวยาช่วยเหลือ เหยื่อทั้งเสียชีวิต และบาดเจ็บ สั่งติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง