ชาวบ้านบุกสภาฯ ยื่นหนังสือร้องกมธ. หวั่นเมืองอุบลน้ำท่วมรุนแรงซ้ำซากทุกปี

หวั่นเมืองอุบลน้ำท่วมรุนแรงถาวรทุกปี หากเดินหน้าสร้างเขื่อนภูงอยกั้นโขงแถมเส้นเขตแดนเปลี่ยน ชาวบ้านบุกสภายื่นหนังสือร้อง กมธ.ตรวจสอบ “แม่สมปอง”เผยเขื่อนปากมูลทำปลาหายห่วงถูกซ้ำเติมอีก

1 สิงหาคม 2567 - ที่อาคารรัฐสภา เครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบลและเขื่อนภูงอย และตัวแทนเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง จำนวนกว่า 50 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูประเทศ ที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ. เป็นผู้รับหนังสือ

น.ส.สดใส สร่างโศรก ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบลและเขื่อนภูงอย กล่าวว่าที่มาวันนี้มีตัวแทนจากชุมชนเมือง ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล เครือข่ายประชาชนแม่น้ำโขง ที่ต่างมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการเขื่อนพูงอยที่จะก่อสร้างบนแม่น้ำโขง แขวงจำปาสัก ทางใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนไทยที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพียงราว 60 กิโลเมตร โครงการเขื่อนภูงอยจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประชาชนในจ.อุบลราชธานี ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปี แม้โครงการเขื่อนภูงอยสร้างอยู่ในเขตของประเทศลาว แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อประเด็นเส้นเขตแดนของไทย

นายจำนงค์ จิตรนิรัตน์ ตัวแทนเครือข่ายชุมชนเมืองอุบล กล่าวว่าขณะนี้ภาวะน้ำท่วมในเมืองอุบลเกิดขึ้นทุกปีและซ้ำซาก และยังไม่มีการแก้ไข หากจะมีโครงการเขื่อนภูงอยเกิดขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้ปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น

“เขื่อนแห่งจะเป็นตัวชี้ขาดว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองอุบลฯ อย่างถาวรหรือไม่อย่างไร ชุมชนเมืองเป็นกลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ทุกปีอยู่แล้ว และโครงการเขื่อนภูงอยเป็นโครงการที่บริษัทไทยไปลงทุนด้วย จึงเป็นประเด็นที่น่ากังวลของชาวอุบลเป็นอย่างมาก” นายจำนงค์ กล่าว

นางสมปอง เวียงจันทร์ ผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล กล่าวว่าพวกเราได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูลมาอย่างยาวนาน แม้จะมีบันไดปลาโจนก็ไม่สามารถที่จะทดแทนการอพยพขึ้นลงของปลาจากแม่น้ำโขสู่แม่น้ำมูลได้ หากมีโครงการเขื่อนภูงอย จะยิ่งทำให้ประชาชนมีปัญหาเรื่องการหาปลาเป็นอย่างมาก แล้วประชาชนอยู่อย่างไร โครงการเขื่อนภูงอยแห่งนี้จะอยู่ในลาว หากเกิดปัญหาเราจะมีอำนาจอะไรไปสั่งให้เขาเปิดหรือปิดเขื่อน อยากให้ กมธ.รับพิจารณาว่าประชาชนไม่ต้องการให้มีการสร้างเขื่อนแห่งนี้ เพราะปลาเป็นอาหารและความมั่นคงของชุมชนและสำคัญต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นอย่างมาก

นายรังสิมันต์ โรม ประธานกมธ. กล่าวว่าโครงการเขื่อนแห่งนี้แม้จะสร้างบนแม่น้ำโขงในลาว แต่จะสร้างผลกระทบต่อประเทศไทย และกรณีน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ตนก็เคยไปลงพื้นที่และเห็นแล้วว่าน้ำท่วมเป็นปัญหาหนักหนาขนาดไหนบ้าง และคิดว่ากมธ. จะรีบการตรวจสอบและเป็นประเด็นหลักสำคัญที่อยู่ในขอบเขตอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่ให้การตรวจสอบได้แน่นอน

“เป็นประเด็นที่ประชาชนทุกข์ร้อน ผมจะเร่งการตรวจสอบให้เร็วมากที่สุด กรณีเขื่อนบนแม่น้ำโขง เราปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว มันเป็นข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนรายงานข่าวตรงกัน เราคิดเรื่องการสร้างเขื่อนและผลิตไฟฟ้าเพิ่มว่า เราจำเป็นหรือไม่ แต่เราไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ยาวนาน เราไม่เห็นมาตรการรองรับอะไรเลย เราจะเป็นสะพานเชื่อมเอาปัญหาของประชาชนกับภาครัฐเพื่อการแก้ไขปัญหาต่อไป” ประธานกมธ. กล่าว

ทั้งนี้เนื้อหาในหนังสือถึงคณะกมธฯ ระบุว่า ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนภูงอย โดยสถานการณ์ปัจจุบัน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 โดยภายใต้แผนดังกล่าวจะมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่มากถึง 42,751 เมกะวัตต์ และส่วนหนึ่งมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 3,500 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะมาจากเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลัก ได้แก่ โครงการเขื่อนภูงอย เขื่อนปากชม เขื่อนบ้านกุ่ม และเขื่อนสานะคาม ซึ่งจะเป็นการทำให้ประเทศไทยมีปริมาณไฟฟ้าสำรองมากเกินความจำเป็น และประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่เกิดความเป็นจำเป็นแล้ว ยังจะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศแม่น้ำโขงและวิถีการดำรงชีวิตของคนลุ่มน้ำโขง

“เครือข่ายจับตาน้ำท่วมฯเห็นว่า การศึกษาการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไม่ครบคลุมถึงพื้นที่ในเขตประเทศไทยและประชาชนไทย รวมถึงมาตรการลดผลกระทบอาจจะไม่มีชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้จริง เขื่อนภูงอยจะทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งเอ่อท่วมพื้นที่สำคัญ เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ รวมทั้งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพการไหล การสะสมตะกอน และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและการระบายน้ำของเขื่อนปากมูล ตลอดจนจะส่งผลกระทบต่อการจัดการบริหารอุทกภัย โดยจะทำให้ จ.อุบลราชธานี กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมรุนแรงและภาวะน้ำท่วมที่กินเวลายาวนานกว่าที่ผ่านมา ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและมิอาจประเมินได้”หนังสือระบุ

หนังสือระบุด้วยว่า นอกจากนี้เขื่อนพูงอยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลำน้ำและร่องน้ำลึกของแม่น้ำโขง ในเส้นพรมแดนไทย-ลาว ซึ่งยังไม่สามารถปักปันเขตแดนที่ชัดเจน และอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านหรือนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยบางแห่ง สุดท้ายเขื่อนพูงอยซึ่งกำลังจะถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยหรือ PDP 2024 นั้น ไม่อาจจะนับว่าเป็นพลังงานสะอาดที่แท้จริง เนื่องจากมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประชาชน และมีผู้ถูกบังคับให้ต้องอพยพย้ายถิ่นฐานหลายครอบครัว และต้องสูญเสียที่ดินทำกินและพื้นที่เพาะปลูกริมฝั่งแม่น้ำในฤดูแล้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นเครือข่ายประชาชนจับตาน้ำท่วมอุบลฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงบริษัทผู้พัฒนาโครงการของไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ตรวจศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม. เล็งลงพื้นที่ชุมชนเปราะบาง ยันไปตรวจสอบไม่ใช่จับผิด

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการป้องกันและรับมือน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า จริงๆแล้ววันนี้มาให้กำลังใจ เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และหน้าฝนปีนี้มาเร็ว

ปภ.เชียงใหม่ เตือน 2 อำเภอ เฝ้าระวัง 24 ชม. เสี่ยงอันตรายน้ำป่า-ดินโคลนถล่ม

นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่เปิดไปว่าขณะนี้หลายพื้นที่ได้แจ้งเฝ้าระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากฝนตกหนักสะสมโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยหลักที่อยู่ไกลที่ลาดเชิงเขาทางน้ำหลากลำห้วย ล่าสุดพบว่า ฝนยังตกหนักและมีปริมาณน้ำฝนสะสม

ผอ.ลำตะคอง เผยน้ำในอ่างเหลือ 27% แต่ไม่น้อยสุดในรอบ 40 ปี ยันมีใช้เพียงพอถึงปี 68

ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จ.นครราชสีมา นายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว

นายกฯ ตื่นแก้น้ำท่วม สั่ง 'ทหาร' ช่วยเหลือดูแลประชาชน จะให้ดีต้องหาทางป้องกันไว้ด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่ฝนตกต่อเนื่องทำให้มีปัญหาน้ำท่วม จึงสั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง

'ธรรมนัส' ดันงบ 200 ล้าน เวนคืนที่ดินสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ จ.ตราด

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางด้วยเฮอลิคอปเตอร์ของกระทรวบเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดตราด ติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่ตำบลสะตอ อำเภอเขาสมิง ที่ได้รับความเดือดร้อนอุทกภัย