อสส.สร้างสำนักงานใหม่ บนที่ดินเก่าเสี่ยเปี๋ยง


15 ก.ค.2567 - ที่ห้องประชุม ชั้น 4 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายอดิศร ไชยคุปต์ รองอัยการสูงสุด ,นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล เลขานุการอัยการสูงสุด ,นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด เเละคณะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ,นายสราวุธ ปิตุเตชะ เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด ,นายรุ่งโรจน์ แจ่มพิทยากรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด(นายอดิศร ไชยคุปต์) ,นายสุวิช ชูตระกูล อัยการอาวุโสสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดปทุมธานี (อดีตอธิบดีอัยการภาค 7 )

เดินทางมาในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่กท.5214 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่เศษ โดยมีนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เเละคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

นายลวรณ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในพิธีว่า รู้สึกยินดีที่ได้ส่งมอบหนังสืออนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.5214 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานครเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 2 งาน 41.5 ตารางวาซึ่งกระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ มีหน้าที่ในการดูแลทรัพย์สินของแผ่นดิน พร้อมที่จะสนับสนุนทุกหน่วยงานในการใช้ที่ราชพัสดุตามภารกิจหน้าที่เนื่องจากปัจจุบัน ที่ราชพัสดุมีจำนวนค่อนข้างจำกัด ในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้จึงต้องคำนึงถึงความจำเป็น ความเหมาะสม และประโยชน์สูงสุดที่ทางราชการจะได้รับโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง กระทรวงการคลังเห็นว่าการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุของสำนักงานอัยการสูงสุด
เป็นไปตามภารกิจหน้าที่และจะก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ในบริเวณโดยรอบได้อย่างเป็นรูปธรรมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอาคารที่พักข้าราชการ และอาคารประกอบอื่น ๆ ให้แล้วเสร็จ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่แผนการดำเนินงานตั้งไว้

ในนามสำนักงานอัยการสูงสุด ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่กรมธนารักษ์เห็นชอบในหลักการ ให้สำนักงานอัยการสูงสุด ใช้ที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.5214 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 2 งาน 41.5 ตาวางวา เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ อาคารที่พัก และอาคารจอดรถ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด จะได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์และปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ที่ราชพัสดุ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

โอกาสนี้ ผมและบุคลากรสำนักงานอัยการสูงสุด ขอขอบพระคุณท่านปลัดกระทรวงการคลัง ท่านรองปลัดกระทรวงการคลัง ท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ ท่านคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่กรุณาให้การสนับสนุนภารกิจงาน ของสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างดียิ่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานอัยการสูงสุด ในการอำนวยความยุติธรรม และการให้บริการประชาชน และทำให้สังคมและประชาชนเชื่อมั่น ในการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป

นายอำนาจ อัยการสูงสุด กล่าวว่า ในนามสำนักงานอัยการสูงสุด ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กรมธนารักษ์เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานอัยการสูงสุด ใช้ที่ดินราชพัสดุ เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ อาคารที่พักและอาคารจอดรถ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด จะได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์และปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ที่ราชพัสดุ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานอัยการสูงสุด ในการอำนวยความยุติธรรม และการให้บริการประชาชน และทำให้สังคมและประชาชนเชื่อมั่น ในการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป

โดยขั้นตอนหลังจากนี้เราจะของบประมาณจากรัฐบาลในการก่อสร้างอาคาร ซึ่งเรามีเเบบเเปลนในการก่อสร้างเรียบร้อยเเล้วก็จะรีบดำเนินการ ซึ่งในวันนี้ที่เราได้เห็นชอบให้ใช้ที่ดินทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะพัฒนาให่เกิดประโยชน์สูงสุดเเก่ทางราชการที่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการอัยการให้มีดียิ่งขึ้นจะทำให้ประชาชนเชื่อมันศรัทธาในสำนักงานอัยการสูงสุด หลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมผู้บริหารในการยื่นของบประมาณ ซึ่งตนก็จะพ้นตำเเหน่งอัยการสูงสุดในเดือนตุลาคมนี้ก็จะต้องเชิญว่าที่ผู้บริหารชุดใหม่มาประชุมวางเเผนในการยื่นของบประมาณก่อสร้างอาคารตามเจตนารมย์ของการขอใช้ที่ดิน โดยจะเริ่มต้นวางเเผนเตรียมการในสมัยที่ตนเป็นอัยการสูงสุดเลย ส่วนงบก็คาดว่าจะได้มาประมาณปี 2568-2569 นี้ ส่วนเป้าหมายจะสร้างอาคารเสร็จในปีไหนนั้น ต้องดูว่าเราจะได้งบประมาณทันในปีไหน โดยเป็นการของบประมาณเพิ่มเติมจากที่สำนักงานอัยการสูงสุดเคยได้โดยคาดว่างบประมาณที่จะต้องสร้างตึกต้องใช้หลักพันล้าน ในการสร้างตึกที่เป็นอาคารสำนักงานอัยการสูงสุดบนที่ดินที่เป็นชื่อของสำนักงานอัยการสูงสุดเเห่งเเรก ซึ่งรูปทำเลที่ดินเเละขนาดเนื้อที่ดินที่ได้มาถือว่ามีความเหมาะสมอย่างยิ่ง


นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่าสำหรับที่ดินดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งความประสงค์ขอใช้ที่ราชพัสดุจำนวน 30แปลง ตั้งอยู่ในแขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ 62.4 ตารางวา เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด สูง 21 ชั้น อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สูง 22ชั้น อาคารที่พักข้าราชการ จำนวน 2 อาคาร สูง 27และ 32 ชั้น อาคารจอดรถสำนักงานอัยการสูงสุด11 ชั้นพร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบจากเงินงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุด วงเงิน 990 ล้านบาทกรมธนารักษ์ได้ พิจารณาผังการใช้ประโยชน์ ความจำเป็นและความเหมาะสมแล้ว ในหลักการเห็นชอบให้สำนักงานอัยการสูดสุดใช้ที่ราชพัสดุจำนวน 30 แปลง โดยได้อนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้ที่ราชพัสดุ บางส่วนจำนวน 18 แปลง เนื้อที่ประมาณ 15ไร่2งาน 41.5 ตารางวาเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดตามภารกิจหน้าที่ สำหรับที่ดินอีก 12แปลงในหลักการไม่ขัดข้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้ประโยชน์ได้ แต่ต้องได้รับความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเนื่องจากกรณีที่ดินบางส่วนอยู่ในแนวเขตเวนคืนก่อนโดยดำเนินการขอใช้ที่ราชพัสดุตามระเบียบของทางราชการต่อไป

นายจำเริญ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวต่อว่า จะเห็นว่าจำนวนข้าราชของสำนักงานอัยการสูงสุดมีจำนวนค่อนข้างมากมีภารกิจสำคัญต่อประเทศชาติ เราก็พิจารณาจากจำนวนข้าราชการเหตุผลความจำเป็นพบว่าสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานที่สำคัญเเละพบว่าสำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่ได้มีที่ที่เป็นสำนักงานอัยการสูงสุดที่ชัดเจน เราก็พิจารณาเห็นว่าที่ตรงนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งตัวสำนักงานอัยการสูงสุดเเละบริเวณใกล้เคียง โดยที่ดินตรงนี้เกิดจากการยึดทรัพย์มาก่อนที่จะส่งมอบให้กรมธนารักษ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่ดินที่มีการส่งมอบวันนี้เป็นที่ดินที่มีการยึดทรัพย์นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวในคดีโครงการรับจำนำข้าวโดยปปง.มีการทำสำนวนส่ง อัยการสำนักงานคดีพิเศษ3 เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินและศาลมีคำพิพากษาในส่วนที่ดินถึงที่สุดแล้วต่อมาที่ดินจึงตกเป็นที่ของกรมธนารักษ์หลังจากนั้นอัยการสูงสุดจึงมาขอใช้ที่ดินตรงนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.

'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย

เข้าทาง! ผู้ร้องคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง ฟันธงศาลรธน. รับคำร้องแน่นอน

จากกรณีที่มีข่าวว่านายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือความเห็นถึงศาลรธน.ในคำร้องคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่หนึ่งและพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่สอง

ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ

'อสส.' ตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครองฯ ต่อศาลรธน.เเล้ว

รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา