รัฐบาลฟุ้งการพัฒนาระบบเชื่อมโยงสุขภาพคืบหน้าเป็นรูปธรรม!

คนไทยเตรียมยิ้มได้แม้ป่วยไข้ ดีอี-สธ.เดินหน้าระบบ Health Link และ MOPH Cloud คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

10 ก.ค.2567 - นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้รอยต่อ และอำนวยความสะดวกในการให้และใช้บริการภาครัฐให้กับประชาชน ถือเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลักดันให้เกิดระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange -HIE) ระดับประเทศ โดยการพัฒนาระบบ Health Link และคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) ขึ้นมา มีการกำหนดมาตรฐานกลางร่วมกับโรงพยาบาลในภาคี พร้อมผลักดันให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ระบบ HIE เป็นระบบที่จะเชื่อมโยงและใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูล โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเท่านั้น รวมถึงในกรณีการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน (หมดสติ) ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและการส่งต่อ นอกจากนี้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) (Big Data Institute: BDI) ดีอี และ สธ. ยังได้ร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ รวมทั้งกำหนดแผนปฏิบัติการ และกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดย ดีอี เริ่มจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นางรัดเกล้า ยังกล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดยได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมาในหน่วยบริการปฐมภูมิและ โรงพยาบาลนอกสังกัด สธ จากนั้น ดีอี จะจับมือกับ สธ. ผ่านโครงการคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข (MOPH Cloud) ขยายผลให้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ และจะผลักดันจังหวัดนครราชสีมาสู่การเป็นต้นแบบในการบูรณาการข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงจัดทำแผนงบประมาณระยะยาว ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ปัจจุบัน Health Link มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือ ThaID สามารถศึกษารายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่: https://healthlink.go.th/ ทั้งนี้ ขอเชิญร่วมรับฟังรายละเอียดแบบครบถ้วนจาก ดีอี ในการแถลงข่าววันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 น.

“ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ระบบ Health Link จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เกิดการรักษาแบบไร้รอยต่อ ทำให้แพทย์สามารถดูประวัติการรักษาข้ามสถานพยาบาลนอกสังกัด ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการตรวจวินิจฉัยซ้ำซ้อน และสามารถได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทันท่วงที ทั้งยังสอดรับตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่อีกด้วย”นางรัดเกล้า กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่

รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้

รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี

รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ

อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย

รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย

ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%

'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน

ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย

'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท