'หมอเหรียญทอง' เผยทำยังไงต่อ หลังช่วยรักษาลูกจ้างเมียนมา จนพ้นขีดอันตรายแล้ว

6 ก.ค.2567 - จากกรณี พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้เปิดเผยเหตุการณ์นายจ้างไทยใจดำ ได้นำลูกจ้างชาวเมียนมา ซึ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส จากการถูกของมีคมทะลุเข้าไปที่ชายโครงซ้ายใกล้หัวใจทะลุกะบังลม

แต่นายจ้างกลับทอดทิ้งลูกจ้างชาวเมียนมา และปัดความรับผิดชอบให้แก่ รพ. ด้วยค่ารักษาพยาบาลมากกว่าแสนบาท อย่างไรก็ตาม หมอเหรียญทอง ได้สั่งให้จัดหาที่พักอาศัย เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัว ตลอดจนหางานแม่บ้านทำความสะอาดให้ภริยาของผู้ป่วยรายนี้ได้ทำงาน มีรายได้ประทังชีวิตจนกว่าสามีจะอาการดีขึ้นและออกจาก รพ.ได้ หากทั้งสามีภริยาคู่นี้ยังไม่สามารถกลับประเทศได้ก็ให้มีงานทำ มีรายได้ประทังชีวิตไปพรางก่อน จนกว่าจะได้กลับประเทศของตนเอง

ล่าสุด พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า นี่คือเลือด 1.5 ลิตรที่คั่งอยู่ในทรวงอกที่ระบายออกจากทรวงอกข้างซ้ายของลูกจ้างชาวพม่าที่นายจ้างไทยทิ้งให้เป็นภาระของ รพ.มงกุฎวัฒนะ

ผู้ป่วยรายนี้ถูกของมีคมแทงทะลุใต้ชายโครงซ้ายใกล้หัวใจจนทะลุกะบังลม มีภาวะเลือดออกมาก (Massive hemothorax) ในช่องเยื่อหุ้มปอดมากถึง 1.5 ลิตร

ผู้ป่วยมีอาการช็อค แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว ซีดเขียว หากผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนด้วยการใส่ท่อระบายทรวงอกเพื่อระบายเลือดจำนวนมากที่คั่งออกจากช่องเยื่อหุ้มปอดแล้ว จะเกิดภาวะการหายใจล้มเหลว (respiratory failure) และเสียชีวิตจากการที่ปอดยุบตัวจากเลือดจำนวนมากที่คั่งอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอด

หลังจากใส่ท่อระบายทรวงอกเพื่อระบายเลือดจำนวนมากออกจากช่องเยื่อหุ้มปอดตามภาพที่แนบแล้ว ปอดของผู้ป่วยรายนี้ก็สามารถขยายตัวได้ ไม่เกิดภาวะการหายใจล้มเหลว

แต่ผู้ป่วยรายนี้ยังต้องเข้าห้องผ่าตัดอย่างทันที เนื่องจากการสูญเสียเลือดจำนวนมากที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยช็อคซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง

หลังการผ่าตัดผู้ป่วยรายนี้ต้องรักษาตัวใน ไอ ซี ยู แต่เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีตั้งแต่ห้องฉุกเฉิน ศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งยังเข้าห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาภาวะการสูญเสียเลือดจำนวนมากได้ทันท่วงที

ผู้ป่วยรายนี้จึงฟื้นตัวเร็วจนสามารถออกจาก ไอ ซี ยู ได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน แต่ผู้ป่วยรายนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยสามัญรวมต่อไปจนกว่าจะปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆที่อาจจะตามมา

วันนี้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานหลายหน่วยงานได้มาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาหนทางช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้และช่วยเหลือ รพ.มงกุฎวัฒนะด้วย โดยจะหาทางส่งกลับผู้ป่วยรายนี้และภริยากลับพม่าโดยเร็ว แต่ผู้ป่วยรายนี้ยังเสี่ยงเกินไปที่จะให้ออกจาก รพ.และส่งกลับประเทศ ยังคงต้องรักษาตัวเพื่อระวังภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

ผมเห็นว่าไหนๆ รพ.มงกุฎวัฒนะก็รักษาชีวิตผู้ป่วยรายนี้จนรอดปลอดภัยแล้ว หากจะต้องให้ออกจาก รพ.เพื่อรีบส่งกลับประเทศอย่างรวดเร็วก็อาจจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนอีก ดังนั้นก็ให้อยู่รักษาตัวต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนแล้วจึงค่อยส่งกลับประเทศบ้านเกิด

ผู้ป่วยชาวพม่าและภริยามีบุตร 3 คน อยู่ที่เมืองพะโค ซึ่งเดินทางยากลำบากมาก ดังนั้นการส่งกลับผู้ป่วยรายนี้จึงสมควรดำเนินการต่อเมื่อผู้ป่วยรายนี้มีร่างกายที่ดีกว่านี้ มิฉนั้นภาวะแทรกซ้อนจะเกิดขึ้นและเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิต

กรุณาอย่าชื่นชมผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะกันนะครับ ชีวิตของผู้ป่วยรายนี้ยังมีบุตร 3 คนรอเขาอยู่ที่บ้าน ไม่ต่างอะไรจากลูกนกในรังที่รอพ่อแม่ ผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ แต่เชื่อเรื่องความรักความผูกพันของพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่งที่พ่อซึ่งเป็นผู้นำกำลังป่วยหนัก

ตัวผมเองก็มีลูก 3 คนเหมือนผู้ป่วยชาวพม่าคนนี้ ผมจึงเข้าใจความรัก ความผูกพัน ความห่วงใยของครอบครัวเป็นอย่างดี

หมายเหตุ ไม่ขอรับบริจาคเงินหรือสิ่งของนะครับ แต่หากท่านผู้ใดมีจิตศรัทธาจริงก็ขอเชิญท่านบริจาคเงินสมทบทุน 'มูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง' (มวรร) ส่วนจะบริจาคอย่างไร ท่านหาวิธีการเองเองนะครับ ผมไม่อยากให้เป็นประเด็นรำคาญจากพวกจ้องหาเรื่องวิจารณ์ว่าผมหากินกับเงินบริจาคครับ ...ระวังมิจฉาชีพหลอกลวงแอบอ้างว่าเป็นตัวแทน'มูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง'(มวรร) ด้วยนะครับ

ต่อมา นพ.เหรียญทอง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หากท่านเป็นนายจ้างไทยที่มีลูกจ้างเป็นชาวพม่า หรือมีเพื่อนร่วมงานเป็นชาวพม่าได้โปรดประชาสัมพันธ์ให้ชาวพม่าที่ทำงานในไทยร่วมกันบริจาคเงินเข้า 'มูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง' ตาม QR ที่แนบเพื่อช่วยเป็นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยชาวพม่าที่กำลังรักษาตัวอยู่ใน รพ.มงกุฎวัฒนะในขณะนี้

ได้โปรดแจ้งให้ชาวพม่าในไทยให้ระมัดระวังมิจฉาชีพหลอกลวง หรือแม้กระทั่งนายจ้างและเพื่อนร่วมงานที่หลอกลวงว่าจะรวบรวมเงินไปสมทบ'มูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง' ด้วย ขอให้บริจาคเงินผ่านทาง QR ของ 'มูลนิธิ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง' จะสะดวกและเชื่อถือได้ที่สุด อย่ารวบรวมเงินกันนะครับ

โพสต์นี้เกิดขึ้นจากการที่ผมเห็นแต่คนไทยเท่านั้นที่บริจาคเงินช่วยเหลือชาวพม่า แต่ผมอยากเห็นชาวพม่าในไทยบริจาคเงินช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติกันเอง

ผมอยากเห็นคนชาติเดียวกันในต่างถิ่นช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติด้วยกันเองเสียก่อน วัฒนธรรมเช่นนี้จะทำให้สังคมในทุกเชื้อชาติศาสนาเข้มแข็ง พึ่งพากันเองได้ โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนร่วมชาติเดียวกันตกทุกข์ได้ยากในต่างถิ่น

ผมไม่ได้รังเกียจการช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ตกทุกข์ได้ยากในไทยกันนะครับ แต่อยากให้คนชาติเดียวกันช่วยเหลือกันและกันเป็นหลักเสียก่อน

หากท่านเป็นนายจ้างไทยที่มีลูกจ้างเป็นชาวพม่า หรือมีเพื่อนร่วมงานเป็นชาวพม่า ได้โปรดเผยแพร่กรณีผู้ป่วยชาวพม่าที่ถูกนายจ้างทอดทิ้งให้เป็นภาระแก่ รพ.มงกุฎวัฒนะที่มีค่าใช้จ่ายนับแสนบาทและยังคงเพิ่มภาระแก่ รพ.มงกุฎวัฒนะขึ้นเรื่อยๆทุกๆวัน

ผมไม่อยากให้ภาระดังกล่าวตกเป็นภาระของ รพ.มงกุฎวัฒนะ และสังคมไทย ตลอดจนส่วนราชการไทยต่างๆด้วย แต่ผมอยากให้สังคมชาวพม่าในไทยช่วยเหลือกันเป็นหลัก และแนวทางเช่นนี้ผมจะใช้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติหากเกิดกรณีชาวต่างชาติอื่นๆด้วย

จันทร์ที่ 8 ก.ค.67 ที่จะถึงนี้ผมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ รพ.มงกุฎวัฒนะติดต่อประสานงานกับสถานทูตเมียนม่าร์ หรือพม่า เพื่อหาทางช่วยเหลือกรณีผู้ป่วยและภริยาชาวพม่าที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามการลักลอบเข้าราชอาณาจักรไทยของสามีภริยาคู่นี้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในทันทีที่สามีซึ่งเป็นผู้ป่วยมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยเพียงพอที่จะรับทราบข้อหาและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนะครับ บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่พ่อพระ รักษาจนรอดปลอดภัย แล้วก็จะส่งเข้าคุกครับ
โหดสัสไหมล่ะครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรงงานเมียนมานับร้อย รวมตัวประท้วงหน้าโรงงาน หลังถูกนายหน้าคนไทยเก็บค่าหัวคิวก่อนลอยแพ

ที่สถานีตำรวจภูธรโคกขาม อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร  ได้มีแรงงานชาวเมียนมา ทะยอยเดินทาง มาแจ้งความกันตั้งแต่กลาง

เคาะ 'รองปลัดคลัง-อธิบดี กสร.' นั่งบอร์ดไตรภาคี ลุยขึ้นค่าแรง 400 ของขวัญปีใหม่

'กระทรวงแรงงาน' เตรียมเสนอชื่อ 'ตัวแทน กสร.-รองปลัดคลัง' นั่งบอร์ดไตรภาคี ขง ครม. 19 พ.ย. เดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่

นายจ้างแฉส่วยระบบขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เรียกเก็บเงินไร้ใบเสร็จ แถมล่าช้าทำหลุดระบบนับแสนคน

นางนิลุบล พงษ์พยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว (นายจ้างสีขาว)เปิดเผยถึงปัญหากระบวนการทำ CI (Certificate of Identity) เพื่อรับรองสถานะบุคคลสำหรับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ

สปส. ย้ำขอความร่วมมือ นายจ้าง “แจ้งเข้า-แจ้งออก” ให้ลูกจ้างตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม

นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ได้กำหนดให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป

พิพัฒน์ เรียกร้องนายจ้าง เห็นใจลูกจ้าง ขึ้นค่าแรง 400 บาท วอนเข้าร่วมประชุมไตรภาคี พรุ่งนี้ 13.30 น. แย้ม ก.คลัง เห็นด้วยมาตรการบรรเทาผลกระทบนายจ้าง

วันที่ 19 กันยายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นค่าแรง 400 บาทว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.67) เวลา 13.30