รัฐบาลฟุ้งปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าลดการผูกขาดเอกชน!

โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้า ลดการผูกขาดภาคเอกชน ดำเนินโครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง

27 มิ.ย.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวคิดในการปฏิรูปปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาล ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดในการลดการผูกขาดของภาคเอกชน เพื่อให้ราคาไฟฟ้าลดลง ช่วยเหลือ ลดค่าครองชีพของประชาชนในระยะสั้น เพิ่มความมั่นคงให้เกิดเป็นราคาที่เหมาะสมในระยะยาว ซึ่งเป็นแนวทางที่จะเกิดการดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาให้เกิดการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในคราวเดียวกัน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า แนวคิดส่วนนี้ เริ่มเกิดเป็นความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินการโครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) ระหว่างเอกชนกับเอกชน ผ่านการขอใช้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) ให้แก่บริษัทชั้นนำของโลกที่รัฐบาลได้เชิญชวนไว้ และสนใจเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะในด้าน Data Center ที่มีความต้องใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดตามข้อกำหนดจากบริษัทแม่ ทั้งนี้ที่ประชุมได้อนุมัติกรอบกำลังไฟฟ้าที่จะอนุญาตให้ซื้อขายโดยตรงกันได้รวมกันไม่เกิน 2,000 เมกกะวัตต์ นอกจากนี้ยังกำหนดด้วยว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าในระบบ Direct PPA นี้ อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ในภูมิภาคด้วย

ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน (พน.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ศึกษาผลกระทบจากการดำเนินการโครงการนำร่อง Direct PPA ผ่านการขอใช้บริการ TPA ต่อสถานภาพของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง และผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งภาคประชาชน และภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมอบหมายให้ กกพ. จัดทำอัตราค่าบริการ TPA ให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 โดยให้ครอบคลุมค่าบริการต่างๆ เช่น 1.ค่าบริการระบบส่ง และระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Wheeling Charge) 2.ค่าบริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า (Connection Charge) 3.ค่าบริการความมั่นคงระบบไฟฟ้า (System Security Charge หรือ Ancillary Services Charge) 4.ค่าบริการหรือค่าปรับในการปรับสมดุลหรือบริหารปริมาณไฟฟ้า (Imbalance Charge) และ 5.ค่าใช้จ่ายเชิงนโยบาย (Policy Expenses) และค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวมทั้งประเทศ และสอดรับกับข้อเสนออัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff: UGT) ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป

“การพัฒนาโครงสร้างพลังงานนี้ถือเป็นความก้าวหน้าของไทย เป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดการลงทุน จะทำให้เกิดการแข่งขันของภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้บริษัทใหญ่ระดับโลกเข้ามาลงทุนสร้างโรงงาน สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานเพื่อความมั่นคงของพลังงานระยะยาว และประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าที่ราคาเหมาะสม”นายชัย กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน