15 ม.ย.2567- นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อผลวิจัย บางส่วนที่เปิดเผยว่า การปลดล็อกกัญชา ออกจากยาเสพติด ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นว่า
มันมีการบิดเบือนข้อมูล เป็นการนำข้อมูลหลังการปลดล็อกกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ต่อเนื่องถึงปี 2566 และ 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาคลี่คลายจากสถานการณ์โควิด-19 ไปเปรียบเทียบกับช่วงเวลาในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผิดปกติเพราะเป็นปีที่มีการล็อกดาวน์อย่างเข้มช้นในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยอ้างว่าหลังปลดล็อกแล้วตัวเลขผู้ใช้กัญชาที่เข้าโรงพยาบาลมากขึ้นก็ดี หรือหลังปลดล็อกกัญชาแล้วจำนวนผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นก็ดี เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้อง เช่น การอ้างว่าในปี 2566 มีผู้ป่วยที่เข้ารับบริการด้านจิตเวชเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับปีก่อนปลดล็อกกัญชาในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ
แต่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้นำรายงานจากรมสุขภาพจิตพบความจริงว่าในปีงบประมาณ 2566 มีผู้รับบริการด้านจิตเวชประมาณ 2.9 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งเป็นปีเริ่มเข้าสู่โควิด-19 คือประมาณ 2.8 ล้านคน และน้อยกว่าปี 2561 ด้วย
“อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้รับบริการอาจไม่ได้สะท้อนผู้ป่วยจิตเวชทั้งหมดในประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ผู้ป่วยจิตเวชอาจไม่มารับบริการในโรงพยาบาลในสถานการณ์ล็อคดาวน์ทำให้ผู้ป่วยที่มารับบริการน้อยกว่าความเป็นจริงในปี 2564 และทยอยมารับบริการมากขึ้นในปี 2565, 2566 และ 2567 โดยไม่สามารถสรุปเหมาเอาได้ว่าผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น เพราะมาจากการปลดล็อกกัญชาในช่วง 2 ปี ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้ระบุอย่างชัดเจนว่า 1 ใน 8 ของคนทั่วโลกมีปัญหาด้านสุขภาพจิต หรือคิดเป็น 970 ล้านคนทั่วโลก และสถานการณ์ดังกล่าวรุนแรงขึ้นเมื่อโลกเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลให้ประชาชนทั่วโลกเกิดความวิตกกังวลและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ”
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณารายงานสัดส่วนของผู้เข้ารับบริการด้านจิตเวชในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับยาบ้า และยาเสพติดอื่นๆ กลับมีสัดส่วนลดลง โดยในปี 2564 ก่อนปลดล็อกกัญชามีผู้ป่วยจิตเวชที่เข้ารับบริการใช้ยาบ้าและสารเสพติดอื่นๆ คือเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.5 ลดลงมาเหลือร้อยละ 13.7 ในปี 2565 และลดลงเหลือร้อยละ 12.8 ในปี 2566 โดยสัดส่วนของผู้ป่วยกลุ่มโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้ามีสัดส่วนสูงที่สุดของผู้ป่วยจิตเวชที่เข้ารับบริการ
โดยฐานข้อมูลของ HDC กระทรวงสาธาณสุขระหว่างปีงบประมาณ 2564-2567 ระบุว่าผู้มารับบำบัดและฟื้นฟูยาเสพติดในปีงบประมาณ 2564 เฉลี่ยต่อเดือน 14,647 ราย, ปีงบประมาณ 2565 เฉลี่ยต่อเดือน 10,514 ราย, ปีงบประมาณ 2566 เฉลี่ยต่อเดือน 13,883 ราย และ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 เฉลี่ย 10,789 ราย
แปลว่าสถิติผู้มารับการบำบัดและฟื้นฟูยาเสพติดปี 2564-2567 ลดลงเฉลี่ยเดือนละ 2,225 ราย หรือปีละ 26,705 ราย ดังนั้นการปลดล็อกกัญชาแล้วเพิ่มปัญหาจิตเวชและเพิ่มการบำบัดรักษาและฟื้นฟูยาเสพติดจึงเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
“จากสถิติของข้อมูลการบำบัดรักษายาเสพติดในประเทศไทยถึง 3 เดือนแรกของต้นปีงบประมาณ 2566 พบว่า ผู้ที่เข้าบำบัดรักษามากถึงร้อยละ 75 คือ “ยาบ้า” ในขณะที่กัญชามีผู้เข้ารับการบำบัดเพียงประมาณร้อยละ 4 ทั้งๆ ที่ยาบ้าอยู่ในบัญชียาเสพติดและมีบทลงโทษรุนแรงยิ่งกว่ากัญชา
สะท้อนให้เห็นว่าแม้ในขณะที่กัญชาถูกปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดและยังไม่มีพระราชบัญญัติในการควบคุม แต่ก็ส่งผลกระทบน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับยาบ้า ดังน้้นจึงเป็นบทพิสูจน์ว่าการนำสิ่งใดไปอยู่ในบัญชียาเสพติดอาจจะไม่สามารถเป็นหลักประกันในการแก้ไขปัญหาได้ ตราบใดที่ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่การไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง
จับตา 'ภท.' รุกคืบ! สัญญาณแข็งข้อกับ 'พท.' ชัดขึ้นเรื่อยๆ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ภูมิใจไทยงดออกเสียง พ.ร.บ.ประชามติ สัญญาณการแข็งข้อกับเพื่อไทย
เลขาฯปปส. เผยร่างกฎกระทรวง เพิ่มความเข้มข้นสกัดกั้นลักลอบขนกัญชาไปต่างประเทศ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตผลิต
'อนุทิน' ยันรัฐบาลแพทองธาร เดินหน้า พ.ร.บ.กัญชา ภท. หนุน 'กาสิโน'
'อนุทิน' ยันรัฐบาลแพทองธาร 1 สานต่อนโยบายกัญชา เดินหน้า พ.ร.บ.ควบคุมใช้เฉพาะทางการแพทย์ หนุน 'เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' สร้างรายได้ให้คนไทย
นายกฯ ยันนโยบายส่วนใหญ่สานต่อยุคเศรษฐา!
นายกฯ เผยได้ข้อสรุปนโยบายส่วนของเพื่อไทยวันนี้ ขณะพรรคร่วมฯทยอยส่งนโยบายรัฐบาลแล้ว เชื่อปมกัญชาไม่เป็นปัญหาคุยกันได้ ส่วน 'เพื่อไทย' ยังเหมือนเดิม แต่ปรับรายละเอียดดิจิทัลวอลเล็ตเล็กน้อย
'หมอธีระวัฒน์' เผยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งใหม่ ใน ม.รังสิต
ศ.ดร.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความผ่านเฟศบุ๊ก ระบุว่า หมอปัจจุบันนี้ อยู่ในตำแหน่งนี้ครับ แต่งตั้งเป็นทางการจากท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยรังสิต