โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ประชุมบอร์ดอีอีซี รับทราบภาพรวมการดำเนินงานปีที่ 4 อีอีซี ดึงเงินลงทุนแล้ว 1.7 ล้านล้านบาท ย้ำทุกหน่วยงานเร่งดำเนินงานปี 2565 ขับเคลื่อนไทยสู่ประเทศรายได้สูง ยกระดับชีวิต ปชช.ดีขึ้น
7 ม.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือ บอรด์อีอีซี ครั้งที่ 1/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เข้าร่วมด้วย
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำหนดเป้าหมายปี พ.ศ. 2565 เป็นปีแห่งความสำเร็จ ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาและทำงานให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ เพื่อไม่ให้ค้างคาหรือล่าช้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในครั้งหน้า ด้วยการร่วมมือกันปลดล็อกอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ เพื่อสร้างผลงานให้ปรากฏชัดเจนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินการของ EEC ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ออกจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ของประเทศให้ GDP เพิ่มสูงขึ้น และให้รัฐมีรายได้ที่สามารถจะดูแลประชาชนทุกกลุ่มตลอดจนผู้มีรายได้น้อย
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังระบุรัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า สอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่มีความพร้อมแต่ขาดเงินทุน 2.กลุ่มที่ยังไม่พร้อมต้องเพิ่มการเรียนรู้ก่อนสนับสนุนทุนให้ และ3. กลุ่มที่ยังไม่มีความพร้อมอะไรเลย ดังนั้น ต้องหาแนวทางทำให้เข้าไปอยู่ในห่วงโซ่ในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ด้วย เพื่อให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปพร้อมกันให้ได้ นอกจากนี้ ใช้ศักยภาพความหลากหลายทางชีวภาพมาดำเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พืชสมุนไพร หรือความหลากหลายทางชีวภาพอื่น ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับประชาชน และให้ประสานความร่วมมือบูรณาการทำงานกับบีโอไอด้วย รวมไปถึงการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามนโยบายรัฐบาลและทั่วโลกในแก้ไขปัญหาลดโลกร้อนตามที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการที่ไทยประกาศให้ความสำคัญคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในการประกอบการธุรกิจเคารพ คุ้มครอง และเยียวยา เพื่อให้เกิดการลงทุนที่ปลอดภัย คำนึงต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้ต้องกลับมาแก้ปัญหาภายหลังอีก
นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีย้ำถึงแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งรัฐบาลเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบโลกจิสติกส์ของประเทศให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบทั้งประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และระบบราง เชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วย โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม สกพอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันดำเนินการให้สำเร็จตามแผนที่ได้วางไว้ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้ นายกรัฐมนตรียังให้ศึกษาแนวทางแก้ปัญหาเรื่องของตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งสินค้า การเกษตรและผลไม้ต่าง ๆ ขณะที่การแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล และคณะกรรมการบริหารสัญญาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F โดยกำชับให้พิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ และไม่มีคดีความต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับมติ กพอ. ที่สำคัญ 1.รับทราบภาพรวมการดำเนินงาน ประโยชน์ประเทศและประชาชนได้รับจาก อีอีซี โดยก้าวสู่ปีที่ 4 อีอีซี ดึงเงินลงทุนแล้ว 1.7 ล้านล้านบาท (การลงทุนภาคเอกชน 80% และภาครัฐ 20%) เกิดจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 654,921 ล้านบาท ลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายประมาณ 924,734 ล้านบาท และบูรณาการเชิงพื้นที่ประมาณ 82,000 ล้านบาท และในปี 2565 อีอีซี เร่งสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ขับเคลื่อนแผนลงทุนระยะ 2 อีอีซี (ปี 2565-2569) ตั้งเป้าเกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท จากการต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน 2 แสนล้านบาท ดึงดูดการลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ต่อยอดจากฐานปกติ และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ปีละ 4 แสนล้านบาท เพื่อให้เกิดการลงทุนนวัตกรรมใหม่เคียงคู่สิ่งแวดล้อม รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตขึ้น (GDP) 5% ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการของไทยมีมูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ จะเกิดการพลิกโฉมการศึกษาพัฒนาทักษะบุคลากรโดยเฉพาะด้านดิจิทัล ที่จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ รายได้มั่นคง โดยปี 2572 อีอีซี ตั้งเป้าหมายสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงจากฐานราก ให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางก้าวสู่ประเทศพัฒนา รวมทั้งยกระดับคุณภาพชุมชนในมิติต่างๆ ต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างชุมชนที่มั่งคั่ง ให้กับคนไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งเป็นองค์กรต้นแบบการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษทั่วประเทศในอนาคตต่อไป
2.รับทราบความก้าวหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลัก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญของอีอีซี ที่ได้ผลักดันการลงทุนร่วมรัฐ-เอกชน (PPP) จนสำเร็จครบ และต่อจากไตรมาส 1 ปี 2565 นี้ ทุกโครงการ (รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง) จะสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ตามแผนทั้งหมด โดยถือเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องพึ่งพิงเงินกู้ต่างประเทศเช่นในอดีต รัฐได้ประหยัดงบประมาณร่วมมือกับเอกชนไทย ใช้เงินไทย ใช้บริษัทไทย ใช้คนไทย ร่วมสร้างประเทศไทยที่แข็งแกร่งเป็นแกนหลักนำพันธมิตรต่างชาติมาร่วมลงทุน สร้างงาน สร้างเงินให้คนไทย มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 654,921 ล้านบาท และรัฐได้ผลตอบแทนสูงถึง 210,352 ล้านบาท
3.รับทราบความก้าวหน้าโครงการพัฒนาศูนย์บริการทดสอบการแพทย์จีโนมิกส์ ในพื้นที่ อีอีซี ยกระดับให้ชุมชนเข้าถึงบริการสาธารณสุข และแผนการขับเคลื่อนการรักษาแบบการแพทย์แม่นยำ โดยเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ศูนย์บริการจีโนมิกส์ในอีอีซี และบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ สกพอ. ได้ลงนามในสัญญาจ้าง และสัญญาเช่าที่บริการถอดรหัสพันธุกรรม กับกิจการร่วมค้าไทยโอมิกส์ เพื่อถอดรหัสพันธุกรรมประชาชน 50,000 ราย ในระยะเวลา 5 ปี และจัดเก็บเป็นข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยและเลือกการรักษาโรคที่ถูกต้อง เป็นต้นแบบในพื้นที่ อีอีซี เพื่อให้คนไทยทุกคน ได้รับการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ รักษาได้ตรงอาการ และมีสุขภาพดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
โฆษกรัฐบาล เผยปี 2568 นายกฯอิ๊งค์ จะทำให้ประเทศไทยเจริญทุกตารางนิ้ว!
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ในประเด็น “ท่านเห็นว่าบุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567 ” พบว่า ประชาชนชื่นชมและชื่นชอบ
เช็กที่นี่! ครม.ไฟเขียว 'ทางด่วนฟรี' ช่วงปีใหม่ รวม 8 วัน
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)
'บลจ.กรุงศรี' คัดกองทุนเด่น ชวนลูกค้าวางแผนการเงินรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี
บลจ.กรุงศรี คัดสรร SSF/RMF/Thai ESG มาแนะนำ ครบทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมหลายสินทรัพย์ หุ้นไทย และกองทุนหุ้นสไตล์ defensive ซึ่งเหมาะกับการลงทุนยาว ตอบโจทย์ทุกสภาวะการลงทุนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
ครม. อนุมัติสร้างทางด่วนยกระดับ บางขุนเทียน-บางบัวทอง คาดแล้วเสร็จปี 71
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง ของกรมทางหลวงกระทรวงคมนาคม (โครงการ M9)