'ดร.เอ้' ชื่นชมอดีตนายกฯสิงคโปร์ วางมือทางการเมืองแล้วไปทำอะไร

30 พ.ค.2567 - นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า "ลีเซียนลุง" ลงจากนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แล้วไปทำอะไร? ยังแอบชักใยรัฐบาลไหม? ไปเป็นหัวหน้าพรรค? ไปเป็นที่ปรึกษาเงินเดือนสูงๆ ให้เอกชนไหม? อยู่บ้านเลี้ยงหลานไหม? ไปเที่ยวพักผ่อนชิลๆ? หรือไปยืนรอ ต่อแถวรอซื้อไก่ทอด แบบคนทั่วไป (ในรูป)

ไม่ใช่เลยครับ "ลีเซียนลุง" ยังทำงาน แต่ทำสิ่งที่ "นักการเมืองทั่วไป ไม่ชอบทำ" หรือไม่ถนัดที่จะทำ

ตอบ: ลีเซียนลุง รับเป็นประธาน "สภาวิจัย นวัตกรรม และการประกอบการ Research Innovation and Enterprise Council (RIEC)" เพื่อช่วยสนับสนุน และแนะนำรัฐบาล ในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้สิงคโปร์จากประเทศผู้ให้บริการทางการขนส่ง และบริการการเงิน สู่การเป็นประเทศนวัตกรรมระดับโลก

"งานยาก" และ "งานละเอียด" ที่ไม่ให้อำนาจ การบริหารทางการเมือง แต่ให้ช่วยสนับสนุน สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เพราะสภาหรือคณะกรรมการของสิงคโปร์ชุดนี้ มีบทบาทหน้าที่

1. แนะนำคณะรัฐมนตรี เรื่อง "กลยุทธ์ด้านการวิจัยและนวัตกรรมระดับชาติ" เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของสิงคโปร์ "อย่างจริงจัง" ให้เป็น "สังคมแห่งความรู้" และ "มีความเป็นเลิศด้านการวิจัย นวัตกรรม และการประกอบการ" ตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคม สู่ "ประเทศผู้นำโลก"

2. สร้าง "พันธะสัญญา" ด้านการวิจัย และนวัตกรรม เร่งการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อกระตุ้นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ของภาคการผลิตในสิงคโปร์

ดังนั้น การใช้คนระดับ "อดีตนายกรัฐมนตรี" มาเป็นประธาน คือ การเน้นย้ำถึง "ความมุ่งมั่นทางการเมือง" และ "วาระการวิจัยและพัฒนา"

สิงค์โปร์ รู้ชัด นี่คือ หนทางแห่งอนาคต ต้องใช้คนมากบารมี ไปขับเคลื่อน

ผมว่าเจ๋งจริง ชื่นชมครับ อดีตนายกรัฐมนตรี วางมือทางการเมือง วางมือการบริหารบ้านเมือง เหลือเพียงบทบาท "ที่ปรึกษา" และ บทบาท "ผู้ใหญ่" ที่ไปผลักดันเรื่องงานวิจัย และงานนวัตกรรม ให้เป็นวาระของชาติ มิได้มีอำนาจ "ด้านผลประโยชน์" น่านับถือ

สะท้อน "วิสัยทัศน์ของสิงคโปร์" ความอยู่รอด ความมั่งคั่ง และอนาคตของพลเมือง จะผูกกับ "เศรษฐกิจนวัตกรรม" มูลค่าสูงเท่านั้น

อยู่แบบเดิม ไม่เปลี่ยน ไม่รอด และยังแสดงถึง "ความจำเป็น" และ "ความสำคัญ" ของการพัฒนาชาติ ให้ทันโลก จะต้องใช้ "คนมากบารมี" ระดับอดีตนายกรัฐมนตรี ที่คนยังเกรงใจ ไปขับเคลื่อน หรือนี่คือ "วิถีรัฐบุรุษ" ของผู้นำประเทศ ที่เสียสละ ที่ผู้นำไทย ควรเรียนรู้ นำไปเป็นตัวอย่าง

ผมยกตัวอย่างผู้นำสิงคโปร์ ไม่ใช่ว่าผมเห็นใครดีกว่าคนไทย แต่หากเรา "เปิดใจ" เรียนรู้ ทำอย่างไรให้ประเทศไทยพัฒนา ให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ย่อมเป็นเรื่องดี

สรุป สุดท้าย ประเทศจะดี เริ่มต้นที่ตัว "ผู้นำ" ก็เท่านั้นเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็ก ปชป.ซัดขาประจำวิจารณ์พรรคหัดคิดบวกอย่าทำตัวเป็นมลพิษไปวันๆ

'ศักดิ์สิทธิ์' เตือนขาประจำวิจารณ์ ปชป. เปิดใจ คิดบวกมองเรื่องสร้างสรรค์ อย่าเป็นตัวมลพิษทำลายสุขภาวะบ้านเมือง

เอาแน่ 'คมนาคม' เร่งศึกษาค่าธรรมเนียมรถติด

“คมนาคม” เดินเครื่องศึกษามาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด เปิดโมเดล 4 ประเทศ “อังกฤษ-สิงคโปร์-สวีเดน-อิตาลี” พบช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน สนข. เร่งศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ ชี้ช่วยดึงดูดประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เชื่อมระบบฟีดเดอร์-ขนส่งหลัก หนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย