นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลกว่า 3 แสนล้านบาท

นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลมากกว่า 3 แสนล้านบาท จากปี 2566 ล่าสุดเว็บไซต์ Bounce ยกให้ “ภูเก็ต” เป็นอันดับ 1 ของเกาะน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2567

17พ.ค.2567- นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นศักยภาพจังหวัดภูเก็ตและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งในปี 2566 มียอดเศรษฐกิจสะพัดกว่า 3 แสนล้านบาท ประกอบกับได้รับความเชื่อมั่นและความนิยมอย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ Bounce ได้เผยผลการจัดอันดับเกาะน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2567 (https://usebounce.com/blog/the-island-index-2024) โดยจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ติดอันดับที่ 1 ด้วยดัชนีคะแนนเต็ม 10 จากทุกปัจจัยที่ต่างส่งเสริมกัน ทั้งความหลากหลายของชายหาดที่มีชื่อเสียง กิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุด รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา ในราคาที่เหมาะสม

จากศักยภาพที่หลากหลายของจังหวัดภูเก็ต สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การขนส่ง และศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมขับเคลื่อนแผนการดำเนินการในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในฐานะเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก และประตูสำคัญของภาคใต้ตอนล่าง โดยครอบคลุมการพัฒนาระบบขนส่งทุกมิติทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบกในระยะเร่งด่วนจะเริ่มต้นจากการมอบหมายให้กรมทางหลวง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 402 ด้วยการปรับปรุงระบบไฟสัญญาณจราจรอัจฉริยะ กำหนดเขตห้ามจอดรถ ปิดจุดกลับรถลดความแออัด สำหรับแผนระยะกลาง แก้ไขปัญหาจุดคอขวดบนทางหลวงหมายเลข 402 ควบคู่กับการก่อสร้างและขยายทางหลวงหมายเลข 4027 เป็น 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทาง คาดว่าจะพร้อมให้บริการในช่วงปลายปี 2569 และในส่วนระยะยาว มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พัฒนาทางพิเศษเชื่อมระหว่างหาดป่าตองกับท่าอากาศยานภูเก็ต และเชื่อมต่อกับทางพิเศษระหว่างเมือง ซึ่งจะช่วยประหยัดระยะเวลาเดินทางจากท่าอาศยานภูเก็ตไปหาดป่าตอง คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ในปี 2573

สำหรับการพัฒนาระบบชนส่งมวลชนทางราง ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ศึกษารูปแบบที่เหมาะสมในการนำรถไฟฟ้ารางเบามาให้บริการในช่วงท่าอาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม. โดยออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และส่งผลกระทบต่อการจราจรบนทางหลวงให้น้อยที่สุด คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างในปีพ.ศ. 2571 และพร้อมให้บริการในปี 2574 ขณะที่ การพัฒนาการขนส่งทางน้ำ กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อรองรับ Cruise Terminal ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า การท่องเที่ยวทางเรือสำราญขนาดใหญ่ฝั่งทะเลอันดามันเติบโตเพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญเป็นนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง หากสามารถเทียบท่าในไทยได้มากขึ้นและจอดท่องเที่ยวนานขึ้น จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากขึ้นด้วย โดยคาดว่าการศึกษาการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปีพ.ศ. 2567

ด้านการขนส่งทางอากาศ ได้มอบหมายให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อขยายศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร ได้แก่ ด้านการบริการจัดการพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รองรับปริมาณผู้โดยสาร 18 ล้านคนต่อปี เบื้องต้นคาดแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2574 และด้านการเพิ่มทางเชื่อมต่อโดยให้บริการเครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบก (Seaplane) ณ สนามบินน้ำ (Water Aerodrome) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางจากเกาะภูเก็ต เพื่อไปยังโรงแรมที่อยู่ในเกาะใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันท่าอาศยานภูเก็ตเพิ่มขีดความสามารถรองรับ Seaplane จากรันเวย์ไปยังเกาะได้โดยตรง 100 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมยังศึกษาแนวทางการก่อสร้างท่าอาศยานอันดามันในพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อเชื่อมต่อการคมนาคมในพื้นที่และภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปี พ.ศ. 2575

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการคมนาคมชายฝั่งทะเลอันดามันอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดภูเก็ตเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และเป็นประตูสำคัญของภาคใต้ตอนล่าง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการด้านคมนาคมในจังหวัดภูเก็ตจะช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก สู่การยกระดับ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ขนส่ง และการบินของภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง” นายชัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา