กมธ.อุตฯ แถลงคืบหน้าขนย้ายกากแคดเมียนกลับ จ.ตาก คาดแล้วเสร็จใน 16 พ.ค.นี้

ปธ.กมธ.อุตสาหกรรมฯ เผยขนย้ายขนกากแคดเมียมกลับ จ.ตาก คืบหน้าแล้ว 14% คาดดำเนินการตามแผนแล้วเสร็จใน 16 พ.ค.นี้ พร้อมสั่งกำชับเฝ้าระวัง โกดังเก็บกากของเสีย อ.อุทัย ป้องซ้ำรอยเพลิงไหม้

15 พ.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าในการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมในพื้นที่ต่างๆ กลับสู่จังหวัดตาก ภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ขณะนี้มีการขนย้ายไปแล้ว 14% หรือ 1,806 ตัน แม้ในช่วงแรกจะมีการขนย้ายทั้งแบบพื้นเรียบ ใช้ดับเบิ้ลแบ็ค ร่วมกับการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในการขนย้าย 100% แล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.เป็นต้นมา ขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ และตามแผนจะขนย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 พ.ค.นี้

นายอัครเดช กล่าวถึงการปรับปรุงบ่อว่า จะต้องมีการเทคอนกรีตใหม่ทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการกำลังเร่งดำเนินการ ส่วนการตรวจสอบความปลอดภัยนั้น อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้แจ้งว่า ต้องให้บริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้าง เข้ามาทำการตรวจสอบให้มีความแข็งแรงตามมาตรฐาน EIA ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายจากอาคารพักคอยมาสู่ที่ฝังกลบ

สำหรับการคืนพื้นที่ จากสถานที่ที่มีการพบสารทั้ง 3 พื้นที่นั้น สามารถคืนพื้นที่ในกรุงเทพมหานครได้แล้ว โดยกรมควบคุมมลพิษและกรมควบคุมโรค ได้ลงไปตรวจสอบ และได้รับคำชี้แจงโดยยืนยันว่า ได้มีการตรวจสอบสารตกค้างต่างๆ ตามมาตรฐานแล้วว่า ปลอดจากโลหะหนักอันตราย หรือสารแคลเซียมอย่างปลอดภัย จึงให้มีการส่งคืนพื้นที่แล้ว และขอให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเขตบางซื่อ มีความอุ่นใจว่า ความปลอดภัยกลับมาสู่ภาวะปกติ 100% แล้ว

นายอัครเดช กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มีการดำเนินคดีตามฐานความผิดอาญากับผู้ประกอบการไปแล้วทั้งหมด 4 ฐานความผิด คือ 1.การนำสิ่งปฏิกูลหรือวัตถุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงงาน

2.แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137

3.มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาตของผู้ครอบครอง ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย

4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข และ พ.ร.บ.ส่งเสริมการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ นั้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษได้ชี้แจงว่า กฎหมายทั้ง 2 ดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินงานกับผู้ประกอบการได้

ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ชี้แจงว่า มีความคืบหน้าในการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแล้ว 70-80% แต่สำนวนในส่วนนี้ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนจะมีความผิดอย่างไรนั้น เจ้าหน้าที่ขอรวบรวมให้เรียบร้อยก่อน

โดย ป.ป.ช.ได้มีมติรับเรื่องดังกล่าว มาสอบสวนหาผู้กระทำผิด กรณีเจ้าหน้าที่รัฐปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเอื้อประโยชน์ต่อเอกชน ทำให้มีผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและต่อประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตามมาตรา 48 และ 49 ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดอย่างเต็มที่

นายอัครเดช ยังกล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการนำกากของเสียในที่เกิดเหตุออก โดยจะดำเนินการเคลียร์ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงแผนและรายละเอียดในการดำเนินการ เพื่อแจ้งต่อพี่น้องประชาชนทราบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีงบประมาณในการดำเนินการ 6.9 ล้านบาท และออกหมายจับกับผู้ที่มาเช่าโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว

ทั้งนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะมีการเฝ้าระวังโกดังเก็บกากของเสียที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับในอำเภอภาชี แต่มีกากของเสียมากกว่า และเน้นย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำรอย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันของผู้ประกอบการทั้ง 3 ที่ ทั้งเรื่องรถบรรทุก และหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วม และเมื่อครบ 120 วัน ทาง กมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงอีกครั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บี้รัฐบาล-ผบ.ตร. เร่งกวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ สแกนเข้มชายแดน ฟันทหารตำรวจนอกรีต

'ธนกร' ขอ 'รัฐบาล-ผบ.ตร.' เร่งกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงคนหางาน ฝากสแกนเข้มตะเข็บชายแดน หวั่นใช้ไทยเป็นฐานนายหน้าส่งต่อเหยื่อ แนะจัดการเด็ดขาดทหาร-ตร.นอกรีด

'เอกนัฏ' มั่นใจกระแสนิยม รทสช. ติดลมบน เลือกตั้งครั้งหน้าได้ สส.เพิ่มขึ้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดใจต่อสื่อมวลชนถึงกระแสของพรรค รทสช.ขณะนี้

'ธนกร' ค้าน 'ปชน.' แก้รธน.สุดซอย เตือนระวังโดนฟ้อง 157 ผิดกราวรูด

'ธนกร' ปักธงค้าน 'ปชน.' ชงแก้มาตรา 256 ชี้ตัดอำนาจ สว. ชัดขัดเจตนารมณ์ รธน. ทำเสียสมดุล 2 สภา หนักข้อสุดซอยเอื้อมแตะหมวด 1-2 พ่วงอำนาจองค์กรอิสระ เตือนระวังถูกฟ้อง 157 เจอผิดกราวรูด

'ธนกร' แนะฝ่ายค้านเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล อย่าแค่เล่นละคร ต้องตรวจสอบให้จริงจัง

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ

โฆษก รทสช. ขอบคุณแรงเชียร์ ผลโพลชี้ความนิยม 'รทสช.-พีระพันธุ์' เพิ่มขึ้น

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนและความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนในปีที่ผ่านมา ที่ให้การสนับสนุนและให้ความไว้วางใจพรรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จับตา 'พีระพันธุ์' เรตติ้งพุ่ง! 'แพทองโพย-เท้งเต้ง' ต่างมีจุดอ่อน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "เท้ง-อุ๊งอิ๊ง ต่างมีจุดอ่อน จับตาพีระพันธุ์" โดยระบุว่า