โฆษกรัฐบาล เผยนโยบายนายกฯ ผลักดันท่องเที่ยวไทยคึกคักต่อเนื่อง ส่งผล 4 เดือนแรก 2567 ต่างชาติเยือนไทยแล้วกว่า 12 ล้านคน สร้างรายได้ 5.8 แสนล้านบาท พร้อมลุยแผนการตลาดท่องเที่ยวเชิงรุก
09 พ.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ย้ำการทำงานเพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวมาตลอด โดยดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ในการก้าวเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) เน้นย้ำถึงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ลดอุปสรรคการท่องเที่ยว เพิ่มคุณค่าให้พาสปอร์ตไทย ยกเลิกตรวจลงตรา รวมทั้ง สนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้ 4 เดือนแรก (1 มกราคม – 30 เมษายน) ปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมกว่า 12 ล้านคน และตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้ (ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2567) กว่า 12.5 ล้านคน
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2567 (4 เดือน) รวม 12,127,447 คน สร้างรายได้สะสมให้กับประเทศเป็นมูลค่า 583,902 ล้านบาท ประกอบด้วย เดือนมกราคม จำนวน 3,035,296 ล้านคน เดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 3,352,302 ล้านคน เดือนมีนาคม จำนวน 2,982,721 ล้านคน และเดือนเมษายน จำนวน 2,757,128 ล้านคน โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก มาจากประเทศจีน จำนวน 2,351,909 คน ประเทศมาเลเซีย จำนวน 1,569,856 คน ประเทศรัสเซีย จำนวน 767,210 คน ประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 679,481 คน และประเทศอินเดีย จำนวน 643,587 คน ทั้งนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวสะสม 1 มกราคม – 5 พฤษภาคม 2567 เท่ากับ 12,588,825 คน
นายชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังเร่งแผนงานทำตลาดท่องเที่ยวเชิงรุกอย่างเข้มแข็ง เร่งดึงดูดตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ร่วมงาน Arabian Travel Market (ATM) 2024 พร้อมผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อประชาสัมพันธ์และเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยที่สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวตลาดตะวันออกกลาง โดย ททท.มุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) รวมถึงนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติให้แก่นักท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเยือนไทยมากกว่า 1.1 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 1 แสนล้านบาท
“นายกฯ ดำเนินนโยบายผลักดันตามวิสัยทัศน์ Tourism Hub อย่างมียุทธศาสตร์ สนับสนุนการตลาดเชิงรุก ลดอุปสรรคการท่องเที่ยว พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกแง่มุมที่จะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ และพึงพอใจ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เห็นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทำให้เกิดการต่อยอด ขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน สนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโต สร้างรายได้ สร้างอาชีพ กระจายรายได้ ทำให้ประชาชนไทยได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพตนเอง ครอบครัว และยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี” นายชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! บิ๊กโจ๊กฟ้อง 'เศรษฐา' เป็นอาญาแผ่นดินปมตั้ง 'บิ๊กต่อ'
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช. ฟ้อง 'เศรษฐา' ผิด ม.157 ปมแต่งตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็นผบ.ตร. โดยมิชอบ ระบุไม่ได้ท้ารบ แต่ปกป้องสิทธิ
'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024
นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด
รัฐบาลฝันประชุม JTC ครั้งที่ 3 ดันมูลค่าการค้ากระฉูด
นายกฯ ผลักดันต่อยอดความร่วมมือไทย-มาเลเซียทุกมิติต่อเนื่อง เชื่อมั่นการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 จะส่งเสริมตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นในทุกมิติ
ดันไทยสารพัดศูนย์กลาง จับตากวาดล้างยาเสพติด
"เศรษฐา" ร่อนอีสานตีปี๊บโคราชโมเดล มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต
‘เศรษฐา’ ใส่เสื้อลายแมวโคราช เปิดโมเดลมหานครดิจิทัลแห่งอนาคต
‘เศรษฐา’ ใส่เสื้อลายแมวโคราช เปิดโคราชโมเดลมหานครดิจิทัลแห่งอนาคต ยกระดับการทำงานภาครัฐ-เอกชน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานรูปแบบดิจิทัล คาดหวังปชช.ได้รับบริการภาครัฐอย่างสะดวก ชี้เป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะนร.กรี๊ดได้เซลฟี่นายกฯ
ดัชนีการเมืองไทยร่วง! ปากท้องฉุดเรตติ้งรัฐบาล 'เศรษฐา' ตามหลัง 'พิธา'
วนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,367 คน