รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย

26 เม.ย. 2567 – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การทำงานของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 41) และการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2566 เพื่อเฟ้นหาและอนุรักษ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศของไทย เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตรสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture and Food Hub) ส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดี สร้างต้นแบบเกษตรกร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจน เชื่อมโยงแหล่งตลาดให้เกษตรกรผู้ชนะการประกวด ได้เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ขยายช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรอย่างยั่งยืน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว มีเม็ดยาวเรียวสวย สีมันวาว หุงแล้วมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นใบเตย รสสัมผัสนิ่มนวล จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยประเทศไทยซึ่งถือเป็นผู้ผลิตข้าวที่สำคัญของโลก ในปี 2566 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงถึง 8.76 ล้านตัน นับได้ว่าสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 178,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 28 โดยข้าวหอมมะลิยังคงรักษาระดับการส่งออกได้ดีแม้ราคาสูงกว่าคู่แข่ง โดยมีปริมาณส่งออกในปี 2566 อยู่ที่ 1.32 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 5.6 และตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และฮ่องกง

สำหรับการประกวดข้าวหอมมะลิของไทยฯ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเกษตรกรรายบุคคล และประเภทสถาบันเกษตรกร มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิจาก 22 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทั้งนี้ สำหรับผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 ประเภทเกษตรกรรายบุคคล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ นายณรงค์ จันทรุ่ง จ.อุบลราชธานี และประเภทสถาบันเกษตรกร ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ วิสาหกิจชุมชนข้าวหอมมะลิสงเปลือย ม.5 ต.เมืองทอง จ.ร้อยเอ็ด โดยได้รับรางวัลเป็นรางวัลเกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล รวมกว่า 6 แสนบาท

นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการจัดทำ MOU ซื้อ – ขายข้าวเปลือกหอมมะลิล่วงหน้าในราคานำตลาด ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด 500 บาทต่อตัน จำนวน 6 คู่ ปริมาณกว่า 343.4 ตัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าข้าวที่มีคุณภาพสูง จะมีตลาดรองรับ

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการทำงานเชิงรุกเข้าช่วยเหลือเกษตรกรที่เปรียบเสมือนเป็นกระดูกสันหลังของชาติ สนับสนุนให้ยกระดับ คงคุณภาพสินค้าเกษตร มั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะตั้งใจทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ และประชาชนอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายชัย ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่

รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

ทีมโทรโข่งรัฐบาล ติวเข้มโฆษกกระทรวงส่ง 'ข่าวดี' ทุกสัปดาห์ เร่งตีปี๊บผลงาน 3 เดือน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี