'พิมพ์ภัทรา' ดึงดีเอสไอ-ปปง. ร่วมสอบปมกากแคดเมียม ชี้หากมีแต่คนใน ก.อุตฯ สังคมจะคาใจ

18 เม.ย.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนย้ายกากสารแคดเมียมที่ผิดกฎหมาย ว่า คำสั่งการการประชุมครม. ที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 6 กระทรวง ซึ่งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาคณะทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมมีการเรียกบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด(มหาชน)มารับภารกิจ ทั้งเรื่องการขนย้าย หรือกระบวนการที่ให้คำนึงถึงความปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งเวลานี้กำหนดวันแล้วเรื่องขนส่ง วิธีการขนส่ง วันขนส่ง โดยทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้ลงไปดูหน้างาน เพื่อดูความพร้อมรับกากแคดเมียมเข้าไปทำการฝังหรือไม่ ซึ่งวันนี้จะมีรายงานกลับมา

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า ล่าสุดจากคำสั่งการของนายกรัฐมนตรีเรื่องให้จัดการขนกากกลับไปและการตรวจสอบข้อเท็จจริงล่าสุดได้มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ลงไปดูหน้างานซึ่งทางกระทรวงอุตฯและปลัดฯได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่มีคำสั่งการล้วนแต่เป็นคนในกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีหัวหน้าผู้ตรวจเป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตนเองค่อนข้างกังวลเพราะประชาชนและองค์กรอิสระต่างๆให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก จึงได้ขอให้มีองค์ประกอบเพิ่มมากขึ้น จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ที่มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาร่วมด้วย ซึ่งมีความชำนาญในการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเราตั้งเฉพาะแค่คนในกระทรวงอุตฯการยอมรับของคนข้างนอกอาจจะมีครางแครงสงสัยได้อีกส่วนหนึ่งที่ทำหน้าที่คู่ขนานคือคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไป มีหลายประเด็นค่อนข้างห่วงใยและตรงกับที่เรากำลังทำอยู่คือเรื่องของการขนย้าย วิธีการลดขนส่งรวมถึงสภาพจิตใจสุขอนามัยของพี่น้องประชาชนด้วย

"เราอยากแก้ไขปัญหาให้ได้เร็วที่สุด เดิมวันที่ 7 พฤษภาคม เราก็พยายามทำให้ได้รวดเร็ว แต่ขั้นตอนการเตรียมการมีค่อนข้างเยอะ เช่น เรื่องของถุงที่จะต้องดูให้แข็งแรงถ้าไม่แข็งแรงต้องซ้อนทับเรื่องรถขนส่งจะต้องเป็นรถเฉพาะที่จะใช้ขนส่งและเรื่องของเส้นทางจำนวนรถ วิธีการต้องทำให้ถูกต้องตามระบบความปลอดภัย จริงๆอยากให้รวดเร็วแต่สำคัญที่สุดต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยและต้องเป็นไปตามกระบวนการ วันนี้เราทำได้เร็วขึ้นคือการเพิ่มจำนวนรถให้มากขึ้น สำคัญกว่านั้นคือหน้างานที่จังหวัดตากจะต้องมีความพร้อมด้วยทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ได้ขอ ไปสำรวจแล้ว ทั้งหมดจะต้องมีแผนหากเกิดเหตุแผนสำรองจะเป็นอย่างไร ซึ่งเวลานี้ทุกฝ่ายช่วยกันเป็นอย่างดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย

'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท