ชาวอยุธยา เฮ! ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน สั่งระงับใช้ท่าเรือขนถ่านหิน-แป้งมัน

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนให้ชาวอยุธยาชนะคดีสั่งระงับใช้ท่าเรือขนถ่านหิน-แป้งมันเกิน 500 ตันกรอส

5 เม.ย.2567- ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาะโลกร้อน เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเป็นที่สุดว่า อธิบดีกรมเจ้าท่าใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ปล่อยให้เจ้าของกิจการท่าเรือขนส่งถ่านหิน-คลังสินค้า-แป้งมัน ฯลฯเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้ท่าเรือขนถ่ายเกิน 500 ตันกรอส ในแม่น้ำป่าสักโดยไม่ยอมทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ายื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐ 8 หน่วยงาน อาทิ อธิบดีกรมเจ้าท่า และหน่วยงานของรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาตั้งแต่ ก.พ.2559 เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานเหล่านี้สั่งการควบคุมให้ผู้ประกอบการโรงงานกว่า 50 บริษัท และท่าเรืออีกกว่า 26 แห่ง ตลอด ริมแม่น้ำป่าสัก ในพื้นที่ อ.นครหลวง เพื่อให้ แก้ไขปัญหาการประกอบกิจการทั้งในเรื่องของการขนถ่านหิน คลังสินค้าเป็นระบบปิดทั้งหมด ไม่ปล่อยฝุ่นละออง น้ำเสียที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2562 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรมเจ้าท่าที่อนุญาตให้ผู้ประกอบการท่าเรือขนถ่ายถ่านหินและสินค้าต่างๆ ที่มีระวางบรรทุกเกิน 500 ตันกรอสทั้งหมดโดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่อนุญาต แต่หากจะใช้ท่าเรือดังกล่าวต่อไปต้องไปจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ให้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสียก่อน และพิพากษาให้อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใช้อำนาจตาม ม.35 ประกอบ ม.37 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน 2535 แก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากฝุ่นละออง และเสียงดังจากการประกอบกิจการต่างๆ ทั้งหมด และพิพากษาให้ อบต.ในพื้นที่ใช้อำนาจตาม ม.44 ม.26 ประกอบ ม.28 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 แก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากฝุ่นละออง และเสียงดังจากการประกอบกิจการต่างๆ ทั้งหมดด้วยภายใน 90 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา แต่ผู้ถูกฟ้องคดีได้อุทธรณ์สู้คดี

"วันนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนตามศาลปกครองกลางบางส่วนโดยพิพากษาว่าการที่อธิบดีกรมเจ้าท่าอนุญาตให้ท่าเรือขนถ่ายสิ้นค้าต่างๆเปลียนแปลงวัตุประสงค์ของการใช้ท่าเรือจากไม่เกิน 500 ตันกรอส เป็นใช้เกินกว่า 500 ตันกรอสได้โดยไม่ทำ EIA ที่ผ่านความเห็นชอบจาก คชก.เสียก่อนนั้น เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคำพิพากษาดังกล่าวถือว่าเป็นชัยชนะของชาวอยุธยาโดยแท้ โดยเฉพาะที่มีบ้านเรือนอยู่ในชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ในอำเภอนครหลวงริมแม่น้ำป่าสัก ที่ทนทุกข์ทรมานกันมานานนับ 10 ปี ที่หน่วยงานรัฐปล่อยให้มีกิจการท่าเทียบเรือ การขนถ่ายถ่านหิน แป้งมัน ปุ๋ย ข้าว พืชผลทางการเกษตรต่างๆ โดยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ชาวบ้านริมแม่น้ำป่าสักเสียหาย ตลิ่งริมน้ำพังทรุดตัวเสียหาย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องบังคับคดีกันต่อไป" นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยุ่งแล้ว! อดีตผู้สมัคร สว. จ่อร้องศาลปค.สูงสุด ไต่สวนคุ้มครองประกาศผลเลือก สว.

อดีตผู้สมัครสว. จ่อยื่นศาลปกครองสูงสุด ขอไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวประกาศผลเลือกสว.ชุดเชื่อมโยงการเมือง ชี้เป็นการเลือกสว.ที่มีการหักหลังกันอย่างน่าเกลียด น่าเวทนา จี้กกต.ฟันสว.นกแล และผู้สมัครแจ้งประวัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพ

'ดร.สามารถ' แพร่บทความ บทเรียนสูญ 1.3 แสนล้าน รถไฟฟ้าสายสีส้ม ต้องมีผู้รับผิดชอบ

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ รถไฟฟ้าสายสีส้ม "บทเรียนที่ต้องเรียน" มีเนื้อหาดังนี้

'ศาลปค.สูงสุด' ชี้ขาดแล้ว รฟม.เดินหน้าเซ็นสัญญา BEM ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้องในคดี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562