'อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะวางแนวปฏิบัติคณะทำงานบูรณาการมหาดไทย – ตำรวจ ขับเคลื่อนจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้กระทำผิด ชี้ความมั่นคงคือหัวใจเมื่อประชาชนเชื่อมั่น สังคมปลอดภัยแล้วเศรษฐกิจจะตามมา
28 มี.ค.2567 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามการกระทำความผิดเพื่อสร้างความสงบสุขในสังคม โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสัมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า คณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมฯ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2567 เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในด้านความมั่นคงภายใน และความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหา ภัยคุกคามประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งการพูดคุยหารือครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อวางกรอบการทำงาน เกิดการทำงานที่สอดคล้อง มีแนวปฏิบัติระหว่างฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกันยิ่งขึ้น
คณะทำงานบูรณาการชุดนี้ จะบูรณาการการทำงาน อำนวยการ และประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมมือกันในการกำหนดนโยบาย แนวทาง และมาตรการในการป้องกันและปราบปราม ในเรื่อง การจัดระเบียบสังคม ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน หนี้นอกระบบ การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล สถานบริการ สถานบันเทิง และอาชญากรรมต่าง ๆ ให้เกิดรูปแบบการร่วมกันทำงานอย่างสอดคล้อง เหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ในการตรวจตรา หาข่าว เกี่ยวกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน หนี้นอกระบบ การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล สถานบริการและสถานบันเทิง และอาชญากรรมต่าง ๆ โดยดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั่วราชอาณาจักร
นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีการตั้งคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมฯ ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด และเปิดปฏิบัติการหลายครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรณีที่น่าชื่นชมมากคือการตรวจจับยาเสพติดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 10 ล้านเม็ด ที่ฝ่ายปกครองและตำรวจร่วมกันติดตามมาตั้ง จ.พะเยา และสามารถจับกุมได้ที่จ.พระนครศรีอยุธยา และชุดปฏิบัติการร่วมชุดเดียวกันนี้ก็สามารถเปิดปฏิบัติการที่จับยาบ้าได้อีกจำนวนมาก ที่ จ.ปทุมธานี
“ขณะนี้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคง การจัดระเบียบสังคม การทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งเหล่านี้คือหัวใจ คือเรื่องสำคัญที่สุด หากทำได้สำเร็จ ความเรียบร้อยของสังคมเกิดขึ้น แล้วเศรษฐกิจจะตามมาโดยอัตโนมัติ และผมมั่นใจว่าไม่มีช่วงเวลาไหนที่มหาดไทยและตำรวจจะมีความใกล้ชิดกันเท่าตอนนี้ หากเราได้พูดคุยประสานงานกันทำงานร่วมกันเช่นนี้ต่อไปจะสามารถทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้อีกมาก” นายอนุทิน กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากการพิจารณาเกี่ยวกับการทำงานของชุดปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามการกระทำความผิดระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการของคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมฯ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในหลายประเด็น อาทิ การประสานงานเพื่อจัดเก็บอัตลักษณ์อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ความคืบหน้าการดำเนินการเชื่อมระบบทะเบียนประวัติอาชญากรรม ระหว่าง กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ได้ติดตามความคืบหน้าการร่วมกันดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งประกอบด้วยหลายมาตรการ ไม่ว่าจะเป็น ปฏิบัติการ Re X-ray ค้นหาผู้ป่วยจิตเวช ผู้เสพ ผู้ติดผู้ค้า การประชาสัมพันธ์สร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างกระแสสังคมให้ ตื่นตัวและให้ประชาชนแจ้งเบาะแส การดำเนินมาตรการป้องกัน สร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มเสี่ยงและปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม ปราบปราม สืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ และดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด บำบัดรักษา ตามแนวคิด ผู้เสพ คือผู้ป่วย และฟื้นฟูสภาพทางสังคม ช่วยเหลือ สงเคราะห์ ผู้เสพ ผู้ติด ให้สามารถใช้ชีวิตได้ อย่างปกติสุข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กอ้วน' วอนอย่าดราม่าให้สัญชาติไทย 4.8 แสนราย
'ภูมิธรรม' วอนอย่าดราม่า หลัง ครม.ให้สัญชาติผู้อพยพ 4.8 แสนคน ย้ำทุกอย่างมีกระบวนการ กม. หากมองทุกอย่างเป็นปัญหาจะห่อเหี่ยว
'ภูมิธรรม' ให้ฝ่ายกฎหมายเช็กบิลโทรโข่ง พปชร.ปูดปมดิไอคอน
'ภูมิธรรม' ย้ำให้ฝ่ายกฎหมายเช็กบิล โฆษก พปชร. หลังปูดอักษรย่อคนเพื่อไทยเอี่ยวดิไอคอนกรุ๊ป ท้าเปิดชื่อส่งหลักฐานพร้อมคกก.สอบ ขออย่าจินตนาการเบี่ยงเบนประเด็นตัวเอง
ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ!จ่อขยายเวลาสอบเทวดา สคบ.
'ประเสริฐ' ยอมรับ สอบ 'เทวดา สคบ.' ต้องขยายเวลา เหตุยิ่งสอบยิ่งเจอความเชื่อมโยง
บี้นายกฯส่งตากใบศาลโลก
"อนุทิน" เชื่อปมสอบ "ปลัดอำเภอท่าอุเทน" ใช้เวลาไม่นาน วอนอย่าเอาสะใจ
“อนุทิน” นำทีม “ภูมิใจไทย” ยื่นกฎหมาย คงไว้ซึ่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแล้ว ชี้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ลงลึกถึงพื้นที่ห่างไกล เผย คุยฝ่ายค้าน-รัฐบาลแล้ว หวังได้รับเสียงหนุน เพราะทำเพื่อประชาชน .
30 ตุลาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
'บิ๊กอ้วน' หวั่นดราม่าดิไอคอนหลังปูดชื่อย่อนักการเมือง
'ภูมิธรรม' ฉะ พปชร. ปูดชื่อย่อคนเพื่อไทยโยงเทวดา iCon ท้าให้เปิดหลักฐาน บอกวันนี้ต้องอยู่กับความเป็นจริง อย่าคาดเดาทำเสียหาย ห่วงดราม่า