สภาทนายความฯ รับปากช่วยชาวบ้านถูกลอยแพกว่า 40 ปีตั้งแต่ยุคสงครามคอมมิวนิสต์


21 มี.ค.2567 - ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวิโรจน์ แช่จ๊ะ ประธานกลุ่มเกษตรกรคนจน พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มมวลชนเกษตรกรจากอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทาง มายื่นหนังสือต่อ นายวิเชียร ชุบไรสง นายกสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการถูกย้ายชุมชนและคนลงจากพื้นที่ อันเกิดจากสถานการณ์สงคราม ซึ่งต่อมารัฐได้พัฒนาส่งเสริมให้อำเภอเขาค้อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้กระทบต่ออาชีพเกษตรกร ไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเป็นหลักแหล่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไข แต่ยังไม่คืบหน้า

นายวิเชียร กล่าวว่าปัญหาเกิดขึ้นจากในยุคนั้นมันมีปัญหาเรื่องความสงบเนื่องจากรัฐบาลกับคอมมิวนิสต์มีการปะทะกันแล้วก็ทำให้ชนเผ่าในหมู่บ้านแห่งนั้นต้องถูกรัฐบาลเฉพาะ โดยทหารขอร้องให้ออกจากพื้นที่เพื่อรัฐบาลจะได้ทำการปราบปรามคอมมิวนิสต์ในยุคนั้น พอออกจากพื้นที่ก็เอามาไว้อีกที่หนึ่งคนละอำเภอกันสุดท้ายหลังจากสงครามสงบลง ชาวบ้านก็ไม่สามารถที่จะกลับเข้าพื้นที่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีที่ที่ดินที่ทำกินเป็นของตัวเอง ยังเร่ร่อนอยู่ ก็ได้มีการไปประสานกับหน่วยงานภาครัฐหลายหลายหน่วยงานก็มีปัญหายังไม่สามารถที่จะกลับภูมิลำเนาเดิมของเขาได้

และต่อมาปีพ.ศ. 2554 ก็มีการประกาศเขตอุทยานไปทับที่ของชาวบ้านเผาม้งที่อพยพออกมาเนื่องจากภัยสงครามคอมมิวนิสต์ก็ยิ่งไปกันใหญ่ตอนนี้ก็เลยเดือดร้อน ที่ตนสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีผู้เดือดร้อนทั้งหมด 127 ครอบครัวมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 1,024 คนคนที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนตอนนี้ก็มาเช่าที่ดินของคนอื่นอยู่ แล้วก็เจ้าของที่ดินก็ขอพื้นที่เช่าคืนบางส่วนก็ต้องไปอ้อนวอนกราบเขา ตอนนี้ก็เลยเดือดร้อนไม่รู้จะไปพึ่งพาอาศัยใครก็เลยมาที่สภาทนายความเพื่อที่จะมายื่นหนังสือขอให้ทางสภาทนายความให้ความช่วยเหลือเพื่อที่จะได้กลับไปสู่ภูมิลำเนาของตัวเองที่เคยอยู่ หรืออาจจะประสานให้รัฐบาลช่วยในการที่จะจัดหาที่อยู่ให้ เพราะว่าแม้ว่าจะเป็นชนม้งแต่ก็ได้รับบัตรประชาชนเป็นคนไทยเป็นที่เรียบร้อยทั้งหมดแล้วอันนี้ทางสภาทนายความก็จะต้องช่วยดูแลพวกเขาต่อไป

นายวิโรจน์ ประธานกลุ่มเกษตรกรคนจน กล่าวว่าตนคนม้งที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มเกษตรกรคนจนเพราะเราไม่มีที่ดินทำกินปี 2502 เราอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านหมู่บ้านเล่านะ หมู่บ้านเล่าเน้ง ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ สมัยที่เราอยู่ตรงนั้นไม่มีป่าไม้ ไม่มีอุทยาน ต่อมาในปีพ.ศ. 2503- 2504 มีเจ้าหน้าที่ขึ้นจากเพชรบูรณ์ขึ้นไปอยู่กับพวกเรา ซึ่งการเดินทางนั้นขี่ช้างหรือขับเฮอลิคอปเตอร์ขึ้นไป

ต่อมาปี 2507 เราได้รับบัตรประชาชนเหมือนกับคนไทยทั่วไปทำให้พวกเราดีใจมาก แต่พวกเรานั้นอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ไม่นาน ในปี พ.ศ. 2518 ทหารให้เราอพยพออกมาเราไม่ได้เดินทางออกมาเอง เเต่เป็นทหารที่พาพวกเราออกมาโดยเดินเท้าตอนกลางคืนจากบนเขาลงสู่เขื่อนป่าแดงเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ ทหารได้เอารถรับพวกเราไปส่งที่บ้านเข็กน้อยสมัยก่อนอยู่อำเภอหล่มสักแต่ตอนนี้ขึ้นกับอำเภอเขาค้อ โดยเขาสัญญากับเราว่าด้วยวาจา ไม่มี ลายลักษณ์อักษร ว่าให้เราออกมาอยู่ข้างนอกเขาจะจัดสรรที่ดินให้เราทำกินอยู่อาศัย จะส่งเสริมอาชีพให้นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ 40 กว่าปีแล้ว เรายังถูกลอยแพเป็นขยะของสังคมต่อไป ที่ต้องใช้คำนี้เพราะเราต้องหาเช่าที่ดินจากเพชรบูรณ์ยาวไปจนถึงแม่ฮ่องสอนตอนนี้เราถูกไล่ด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษรเพราะเจ้าของที่เขาจะใช้พื้นที่ ตอนนี้เราไม่สามารถที่จะไปทางไหนได้

ทั้งนี้ได้เรียกร้องไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ได้แต่งตั้งคณะทำงานลงตรวจสอบพื้นที่เดิมที่ปู่ย่าตายายอยู่ ว่าถ้าเป็นป่าสมบูรณ์ก็ว่าไปอย่างหนึ่ง เเต่ถ้าเป็นป่าเสื่อมโทรมตนขอให้พวกเราได้กลับไปใช้ที่ตรงนี้ แต่เขากลับมาประกาศเป็นอุทยานฯไปแล้ว ทั้งที่สมัยเราอยู่ไม่มีอุทยานไม่มีป่าไม้ แต่พึ่งมาประกาศเมื่อปี 2554 ในที่ทำกินของพวกเรา ทำให้พวกเรานั้นไม่สามารถเข้าไปในบ้านเดิมบ้านที่ปู่ย่าตายายเราไปอยู่ตรงนั้น ทุกวันนี้เรายังอาศัยอยู่ที่เข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

นายกสภาทนายความ เข้าพบ ประธานศาลฎีกา หารือป้องกันทนายความปลอม

ที่ศาลฎีกา นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยคณะบริหารสภาทนายความและตัวแทนประธานสภาทนายความจังหวัด ได้เข้าพบนางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา พร้อม

'ครูปรีชา' ยิ้มร่าฟ้าลิขิต หิ้วกาแฟ-ข้าวผัดเยี่ยม 'ทนายตั้ม'

'ครูปรีชา' ยิ้มร่ารับน้อง หิ้วกาแฟพร้อมข้าวผัด ฝาก 'ทนายตั้ม-ภรรยา' ปัดซ้ำเติม แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมจากการกระทำของตัวเอง

สภาทนายฯ แจง 'ทนายตั้ม' โดนหมายจับฝากขังในเรือนจำ คนละส่วนคดีมรรยาททนาย

กรณี ศาลอาญา รัชดา ได้อนุมัติหมายจับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คน