'ดร.อนันต์' เปิดผลวิจัยสาเหตุโลกไม่นิยมใช้ 'โมนูพิราเวียร์' สู้โควิด!

07 มี.ค.2567 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ยารักษาโควิด โมนูพิราเวียร์ มีกลไกการจัดการไวรัสในร่างกายโดยการเข้าไปเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมของไวรัสแบบไม่จำเพาะเจาะจง ทำให้ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่มีทิศทางจนไม่สามารถเพิ่มได้จำนวนได้เหมือนไวรัสปกติและไปต่อไม่ได้ในที่สุด แต่ยังไม่เคยมีงานวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมของไวรัสในระหว่างการใช้ยาจริงๆออกมาให้เห็นชัดว่าเปลี่ยนไว เปลี่ยนเยอะขนาดไหน

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications ชิ้นนี้แสดงข้อมูลออกมาชัดมากว่า ในช่วง 5 วันหลังผู้ป่วยโควิดได้รับยาตัวนี้ ไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เทียบเส้นสีม่วง (รับยา) กับ เส้นสีเทา (รักษาปกติไม่รับยา) ไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยที่ได้รับยาสามารถมีการเปลี่ยนแปลงบนสายพันธุกรรมของไวรัสได้สูงถึงเฉลี่ยกว่า 500 ตำแหน่ง กระจายทั่วทั้งสายพันธุกรรมของไวรัส ในขณะที่กลุ่มไม่รับยาแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในไวรัสเลย ที่น่าสนใจคือหลังหยุดยา เส้นสีม่วงจะเริ่มหักหัวลงอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าไวรัสตัวที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะๆ หลายตำแหน่งไปต่อไม่ได้ ไม่สามารถตรวจพบในร่างกายหลังจากนั้น แต่ประเด็นที่เริ่มมีคนกังวลกันคือ เส้นสีม่วงจะตกลงมาชนกับเส้นสีเทาหลังผู้ป่วยหายจากโควิดหรือไม่ เพราะถ้าไม่ชนแสดงว่าไวรัสที่เปลี่ยนแปลงจากการใช้ยาจะเป็นไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือ หลายคนเรียกว่า ไวรัสกลายพันธุ์ออกไป ซึ่งจะกลายเป็นไวรัสที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือ อาจจะเป็นไวรัสที่มีคุณสมบัติใหม่ๆแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้

การใช้ยาโมนูพิราเวียร์จึงมีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆโดยไม่จำเป็น ปัจจุบันจึงไม่มีคำแนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้ในผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการรุนแรงแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักไวรัสวิทยา' สรุป 3 สายพันธุ์ 'โรคฝีดาษลิง' ความรุนแรงอาจขึ้นอยู่กับช่องทางการติดเชื้อ

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า