โวย กองทัพบก ยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย คดีชัยภูมิ ป่าแส หลังศาลฎีกาสั่งให้จ่ายเงินกว่า 2 ล้าน

แฟ้มภาพ

15 ก.พ.2567 - มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ในคดีที่ มารดาของ นายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ชาติพันธุ์ลาหู่ ที่ถูกฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ทหาร ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก โดยศาลฎีกามีคำสั่งให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นจำนวนเงิน 2,072,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ทว่าจวบจนถึงปัจจุบัน จากการติดตามเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนที่กองทัพยังคงไม่ดำเนินการนำเงินมาวางที่ศาลชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวของ นายชัยภูมิ ป่าแส ผู้ซึ่งได้ต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมนับเป็นเวลานานกว่า 6 ปี โดยไม่ทราบเหตุผลความจำเป็นที่ยังไม่ชำระเงินตามคำพิพากษา

คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนชาติพันธุ์จากกลุ่ม ‘รักษ์ลาหู่’ ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรมเยาวชนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของคนชาติพันธุ์และคนไร้สัญชาติในประเทศไทย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตรวจค้นรถยนต์นายชัยภูมิ ป่าแส ที่ขับมาพร้อมเพื่อนอีกหนึ่งคน เมื่อผ่านด่านตรวจดังกล่าว นายชัยภูมิ ป่าแสได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจค้นแล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายชัยภูมิขัดขืนและพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง

โดยต่อมา มารดา นางนาปอย ป่าแส (ชนเผ่าพื้นเมืองลาหู่) ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก ตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ ป่าแส ลูกชายของตน ซึ่งผลการพิจารณาของศาลชั้นต้นกลับมองว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่ยิงผู้ตายกระทำเพื่อป้องกันตัว สมควรแก่เหตุ ไม่ถือว่าละเมิดต่อโจทก์ พิพากษาให้ยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น จึงเป็นเหตุให้ทางครอบครัวของชัยภูมิและทนายความขอยื่นฎีกาต่อ เพื่อตามหาความจริงและทวงคืนความยุติธรรมให้ชัยภูมิและครอบครัว

อย่างไรก็ตาม แม้ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายแล้วก็ตาม แต่กองทัพบกยังคงเพิกเฉย ปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ที่กองทัพบกยังไม่นำเงินมาชำระให้กับครอบครัวชัยภูมิป่าแส ความล่าช้าที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็นนี้อาจทำให้ครอบครัวและสังคมเข้าใจไปว่ากองทัพบกยังไม่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อการกระทำละเมิดต่อครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแสแต่อย่างใด กว่า 6 ปีที่ครอบครัวของชัยภูมิเดินทางออกมาต่อสู้เพื่อเรียกกร้องความยุติธรรม จนกระทั่งศาลสูงสุดตัดสินคดีเสร็จสิ้นแล้ว แต่ครอบครัวของชัยภูมิ ป่าแส ยังคงต้องรอให้กองทัพบกแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อชัยภูมิ ปัจจุบันก็ยังไม่มีคำขอโทษหรือแสดงความเสียใจของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวและสังคม

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอยืนหยัดเคียงข้างครอบครัวชัยภูมิ ป่าแสผู้ซึ่งยังคงต้องอดทนรอคอยความยุติธรรม และขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจในคดีดังกล่าวร่วมส่งกำลังใจให้กับครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส รวมถึงกรณีอื่นๆที่อาจเผชิญเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันและยังคงต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ให้ได้รับความเป็นธรรมรวมถึงการชดใช้เยียวยาตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กอ้วน' ยันชายแดนภาคเหนือไร้สู้รบ กลุ่มว้าแดงไม่ได้รุกล้ำ อย่าพูดเรื่องเสียดินแดน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และรมว. กลาโหมกล่าวถึงสถานการณ์ การเผชิญหน้าระหว่างทหารว้าและทหารไทย ในพื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือ ว่า ก็ไม่มีอะไรสถานการณ์สงบปกติ โดยตนเองได้สอบถามไปยังพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์

ทภ.3 สยบข่าวทหารไทยเผชิญหน้าว้าแดง ยันประชาชนใช้ชีวิตปกติ สัมพันธ์ชายแดนยังดี

พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่ได้ปรากฏข่าวสารข้อมูล ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองทัพภาคที่ 3 ขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ดังนี้

โฆษก ทบ. แจงปมเจ้ากรมยุทธฯทำร้ายทหาร รอสอบพยานเพิ่ม ชี้บทลงโทษด้านวินัย

พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้การสอบพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคำสั่งให้เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก

ผบ.ทบ. ร่วมพิธีปิดทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธี กลุ่มประเทศอาเซียน ทหารหญิงไทยคว้ารางวัล

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทาง ร่วมในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 32 (The 32nd ASEAN Armies Rifle Meet - AARM) หรือ AARM 2024

โฆษก ทบ. เผยคำสั่งย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกาย

พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการที่กองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ในสังกัดกรมยุทธศึกษา

ผบ.ทบ. เซ็น แต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ 461 นาย

การแจกจ่ายคำสั่งกองทัพบกที่ 442/ 2567 โดยมี พ.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนาม เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 461 นาย