'ชัย' ฟุ้ง 'เศรษฐา' พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทยปลื้ม 'อ่าวมาหยา' ติดอันดับ 3 ของโลก

นายกฯ มุ่งหน้าพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทย จับมือทุกภาคส่วนยกระดับการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ พร้อมชื่นชม อ่าวมาหยาได้อันดับที่สามของการจัดอันดับ 20 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลกจาก Lonely Planet

14 ก.พ.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทยควบคู่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งครอบคลุมถึงการอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้คงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยนายกฯ ชื่นชมผลการจัดอันดับ 20 best beaches in the world ซึ่งได้จัดให้อ่าวมาหยา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 (https://www.lonelyplanet.com/articles/worlds-best-beaches)

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า นิตยสารด้านการท่องเที่ยว Lonely Planet ได้ส่งนักเขียนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อจัดอันดับ 20 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก (20 of the world's best beaches) และยกให้ อ่าวมาหยา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย ได้รับการจัดอยู่ในอันดับที่ 3 เนื่องจากเป็นชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาหินปูน มีน้ำทะเลครามไล่โทนสี กับหาดทรายขาวละเอียด ซึงถือเป็นอีกหนึ่งการตอกย้ำความสวยงามขององสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทย

นายชัยกล่าวว่า 4 นโยบาย กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2567 ด้วยการร่วมมือกับทุกภาคส่วน ตามแนวคิด “365 วันเมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน – 55 เมืองรอง – พัฒนาการสื่อสาร - กระตุ้นไทย/ต่างชาติใช้เงิน” โดยมีเป้าหมายเพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ นโยบายที่ 1 ยกระดับให้สามารถท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยได้ตลอด 365 วัน ด้วยหลักคิดทำการตลาดด้วยอีเวนต์ (Event Marketing) ผ่านงานเทศกาลงานประเพณีหลักต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วไทยให้ครบตลอดทั้งปี ซึ่งจะช่วยผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางแห่งเทศกาล (Festival Hub) ของโลก

นโยบายที่ 2 ส่งเสริมการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง เน้นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เป็นจุดขายทางวัฒนธรรม ออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวควบคู่กับการพัฒนาสินค้าชุมชน ตลอดจนยกระดับการคมนาคม อำนวยความสะดวกการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย นโยบายที่ 3 ขับเคลื่อนการสื่อสารเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยว โดยมีการเชิญชวนบุคคลผู้มีชื่อเสียง และผู้นำทางความคิด ร่วมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เผยแพร่ข้อมูลไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวในประเทศไทย

และนโยบายที่ 4 กระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติใช้จ่ายเงินตลอดปี 2567 ด้วยการจัดเทศกาลกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมทั้งมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึง
การยกระดับสินค้าชุมชนและผลิตภัณฑ์พื้นเมืองของแต่ละจังหวัดและการบริการในแหล่งท่องเที่ยวแบบครบวงจร

โดยจากแผนการดำเนินการดังกล่าวคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้ จากตลาดต่างประเทศจำนวนไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน เติบโต 26.12% สร้างรายได้กระจายสู่พื้นที่ทั่วประเทศได้ 1.9 - 2 ล้านล้านบาท และจากการท่องเที่ยวตลาดในประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวมตามได้เป้าหมาย 3.0 ล้านล้านบาท

“นายกฯ ดึงและขยายศักยภาพการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก สนับสนุนการจัดกิจกรรมและเทศกาลทั่วไทยตลอด 365 วัน เพิ่มช่วงเวลาการพำนักอย่างต่อเนื่อง มุ่งดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยว ด้วยเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเป็นอีกส่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่กับนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ”นายชัยกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด

นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า

งงตรรกะประหลาด 'อานันท์' มี 'พล.อ.สุนทร' ได้ 'เศรษฐา 'ก็มี 'ทักษิณ' ให้คำปรึกษา

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักจัดรายการวิทยุ โทรทัศน์ และประธานกรรมการนโยบายขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความว่า